ขับรถเที่ยวบึงกาฬ: เปิดวาร์ปจังหวัดลับ ฟินกับธรรมชาติแบบ Unseen

แก๊งค์เพื่อนนักเดินทางสายธรรมชาติทั้งหลาย! ถ้าเบื่อความวุ่นวายในเมืองกรุง แล้วอยากพุ่งตัวไปสูดอากาศดีๆ ให้เต็มปอด พร้อมกับชมวิวสวยๆ แบบที่เห็นแล้วต้องร้องว้าว! วันนี้เราจะชวนทุกคนแพ็คกระเป๋าแล้วออกเดินทางไป ขับรถเที่ยวบึงกาฬ จังหวัดน้องใหม่ล่าสุดของไทยที่อัดแน่นไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสุด Unseen บอกเลยว่าทริปนี้ฟินแน่นอน!

บึงกาฬอาจจะยังเป็นจังหวัดที่หลายคนมองข้าม แต่เชื่อเถอะว่าที่นี่มีของดีซ่อนอยู่เพียบ! โดยเฉพาะใครที่เป็นสายธรรมชาติ รักการผจญภัย ชอบความสงบ และอยากพักผ่อนแบบจริงๆ จังๆ บึงกาฬคือคำตอบที่ใช่ที่สุด และการ ขับรถเที่ยวบึงกาฬ นี่แหละ คือวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราได้ซึมซับบรรยากาศและแวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้อย่างอิสระ ว่าแล้วก็สตาร์ทรถแล้วตามเรามาเลย!

ปักหมุด 4 สถานที่ธรรมชาติ ห้ามพลาดเมื่อมาขับรถเที่ยวบึงกาฬ

1. หินสามวาฬ: จุดชมวิวสุดอลังการเหมือนหลุดไปอีกโลก

มาถึงบึงกาฬแล้วไม่ได้มาเช็คอินที่ "หินสามวาฬ" ถือว่ามาไม่ถึง! ที่นี่คือไฮไลท์เด็ดที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู ลักษณะเป็นหินทรายขนาดมหึมา 3 ก้อน ตั้งเรียงกันอยู่ริมหน้าผา มองไกลๆ แล้วเหมือนครอบครัวปลาวาฬ พ่อ แม่ ลูก กำลังว่ายน้ำอยู่กลางผืนป่าสีเขียวขจี

การเดินทางขึ้นไปยังหินสามวาฬค่อนข้างท้าทายเล็กน้อย แนะนำว่าควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือถ้าใครไม่สะดวก ก็มีบริการรถของชาวบ้านพาขึ้นไปในราคาไม่แพง ช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือตอนเช้าตรู่ เราจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกับทะเลหมอกบางๆ บอกเลยว่าเป็นภาพที่สวยงามจนลืมหายใจ! วิวจากบนหินสามวาฬสามารถมองเห็นได้ไกลถึงภูเขาในฝั่งประเทศลาว และแม่น้ำโขงที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เป็นการเริ่มต้นทริป ขับรถเที่ยวบึงกาฬ ที่ประทับใจสุดๆ

2. ภูทอก: สะพานไม้เวียนรอบเขา สวรรค์ของคนรักความท้าทาย

"ภูทอก" หรือ "วัดเจติยาคีรีวิหาร" เป็นอีกหนึ่งสถานที่ Unseen ที่จะทำให้คุณทึ่งในความศรัทธาและความพยายามของมนุษย์ ไฮไลท์ของที่นี่คือสะพานไม้ที่สร้างวนเวียนอยู่รอบภูเขาหินปูนสูงชัน เพื่อให้พระเณรและนักท่องเที่ยวได้เดินขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมความงามบนยอดภู

การเดินขึ้นภูทอกมีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นจะมีความชันและความสวยงามของวิวที่แตกต่างกันออกไป ทางเดินบางช่วงอาจจะดูน่าหวาดเสียวไปบ้างสำหรับคนกลัวความสูง แต่รับรองว่าปลอดภัยและคุ้มค่าเหนื่อยแน่นอน เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนสุด เราจะได้เห็นวิวแบบ 360 องศาของจังหวัดบึงกาฬ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ ในการมา ขับรถเที่ยวบึงกาฬ ครั้งนี้

3. น้ำตกถ้ำพระ: สไลเดอร์ธรรมชาติสุดมันส์ ชุ่มฉ่ำกลางป่าใหญ่

หน้าร้อนแบบนี้ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้กระโดดลงเล่นน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจ และ "น้ำตกถ้ำพระ" คือจุดหมายที่ตอบโจทย์ที่สุด! ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีลานหินกว้างและน้ำใสไหลเย็นตลอดทั้งปี

ความพิเศษของน้ำตกแห่งนี้คือ "สไลเดอร์ธรรมชาติ" ที่เกิดจากร่องน้ำบนลานหิน ให้นักท่องเที่ยวได้สไลด์ตัวลงมาอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงยังมีถ้ำเล็กๆ ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปให้เราได้เข้าไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย การเดินทางเข้าไปยังตัวน้ำตกจะต้องนั่งเรือเข้าไปประมาณ 10 นาที ทำให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ เป็นการพักผ่อนและเติมพลังให้กับการ ขับรถเที่ยวบึงกาฬ ได้เป็นอย่างดี

4. บึงโขงหลง: ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ แหล่งพักผ่อนของเหล่านกนานาพันธุ์

ปิดท้ายทริป ขับรถเที่ยวบึงกาฬ กันที่ "บึงโขงหลง" ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่เป็นทั้งแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและพื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญระดับนานาชาติ ที่นี่เป็นบ้านของนกน้ำหลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่จะมีนกอพยพมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้บึงโขงหลงกลายเป็นสวรรค์ของนักดูนก

กิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวคือการล่องเรือชมความงามของบึงโขงหลง ชมวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน และแวะสักการะ "ศาลปู่อือลือนาคราช" ตำนานพญานาคผู้ปกปักรักษาบึงโขงหลงที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธา บรรยากาศยามเย็นที่พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้าที่บึงโขงหลงนั้นงดงามและโรแมนติกสุดๆ เป็นภาพจำที่สวยงามของการมาเยือนบึงกาฬในครั้งนี้

เติมพลังหลังเที่ยว: แนะนำร้านอาหารและคาเฟ่เด็ดในบึงกาฬ

หลังจาก ขับรถเที่ยวบึงกาฬ จนเต็มอิ่มกับธรรมชาติแล้ว ก็ถึงเวลาต้องเติมพลังกันหน่อย! บึงกาฬไม่ได้มีดีแค่ที่เที่ยวสวยๆ แต่ยังมีร้านอาหารอร่อยๆ และคาเฟ่เก๋ๆ ซ่อนตัวอยู่อีกเพียบ

ร้านอาหารแนะนำ:

• ครัวเสวย: ร้านอาหารไทย-อีสานรสเด็ด บรรยากาศดี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง
• กินลมชมโขง: อีกหนึ่งร้านอาหารบรรยากาศดีริมแม่น้ำโขง เหมาะสำหรับมื้อเย็นสุดพิเศษ
• ร้านส้มตำยายใจบ้านพันลำ: ร้านส้มตำรสแซ่บที่คนท้องถิ่นแนะนำ การันตีความอร่อยด้วยเมนูตำหลากหลาย
• มาเด้อ ณ ชัยพร: ร้านอาหารไทย-อีสาน ที่มีเมนูปลาแม่น้ำโขงสดใหม่ให้ลิ้มลอง พร้อมกาแฟสดรสเข้ม

ภาพ Facebook page:รฦก cafe n’ camp

คาเฟ่ห้ามพลาด:

• ETC. Coffee Bar: คาเฟ่สุดชิคสำหรับคอกาแฟตัวจริง
• Landscape Camping Cafe: คาเฟ่บรรยากาศแคมป์ปิ้งสุดชิลล์ริมแม่น้ำโขง
• รฦก Cafe'n Camp: คาเฟ่ริมน้ำบรรยากาศดี เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนหย่อนใจ
• The Sapparose Cafe: คาเฟ่ในร้านดอกไม้ บรรยากาศสวยงาม มีมุมให้ถ่ายรูปเพียบ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ อยากจะลอง ขับรถเที่ยวบึงกาฬ กันดูสักครั้งนะ! รับรองว่าจังหวัดลับๆ แห่งนี้จะทำให้คุณตกหลุมรักในความสวยงามของธรรมชาติ และความน่ารักของผู้คนอย่างแน่นอน แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้านะทุกคน