ที่ Nabi Cafe (นาบี ภาษาเกาหลีแปลว่าผีเสื้อ) มีบ้านผีเสื้อสุดว้าว มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เดินทางไม่ถึง 2 ชั่วโมง อยู่ใกล้แค่แก่งกระจาน อร่อยแบบได้บรรยากาศ เงียบสงบและสดชื่น ตอบโจทย์นักเดินทางรุ่นใหม่ชอบเช็คอินคาเฟ่ริมแก่งถ่ายรูปสวยๆ 

At Nabi Cafe (where "nabi" means butterfly in Korean), you can find an amazing butterfly house that’s open year-round. Located less than two hours away, near Kaeng Krachan, it offers a delightful atmosphere, peace, and freshness. This spot perfectly caters to the new generation of travelers who love to check in at picturesque cafes by the river and capture beautiful photographs.

Nabi Cafe

在Nabi Café（“娜比”在韩语中意为“蝴蝶”）有着惊艳的蝴蝶之家，全年都欢迎游客光临。这里距离美丽的桂加Ť不到两个小时的车程，安静而清新，能够享受美味的同时感受到宜人的氛围。对于喜欢在河边咖啡馆打卡、拍摄美丽照片的新一代旅行者来说，这里绝对是个完美的选择。

เพชรบุรีเป็นเมืองเก่าแก่ เคยเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญชั้นเมืองลูกหลวงของไทยมาช้านานและมีชื่อเสียงเลื่องลือหลายด้าน นอกจากจะเคยเป็นเมืองที่ประทับของอดีตพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง ซึ่งรวมทั้งเขื่อนเพื่อการชลประทานและผลิตไฟฟ้าที่สำคัญและมีความงดงาม นั่นคือ เขื่อนแก่งกระจาน เป็นสถานที่ที่สวยงาม ต้องมาสัมผัสความสดชื่นในหน้าฝน อีกทั้งมีสะพานแขวนให้เดินข้าม ถ่ายรูปวิวสวยๆ กันแล้วล่ะค่ะ

สำหรับผู้ที่ต้องการจะขึ้นเขาพะเนินทุ่งต้องติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อขอใบอนุญาตผ่านทาง โดยเสียค่าธรรมเนียม คือ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท รถยนต์สี่ล้อ 30 บาท รถกระบะ 40 บาท รถตู้ 50 บาท รถยนต์มากกว่าสี่ล้อ 70-80 บาท และผู้ที่ต้องการจะขึ้นเขาพะเนินทุ่ง เวลา 05.00 น. ต้องทำใบขออนุญาตล่วงหน้า 1 วัน

Petchaburi is an ancient city that has long been an important frontier town of Thailand, renowned for various aspects of its rich history. Besides being a former residence of monarchs from the Chakri dynasty, it boasts numerous significant attractions, including vital and stunning irrigation and hydropower dams. One such highlight is the Kaeng Krachan Dam, a breathtaking location that offers refreshing experiences, especially during the rainy season. There’s also a suspension bridge that allows visitors to walk across and capture beautiful photographs of the scenic views.

For those wishing to trek up Phanern Thung Mountain, it is necessary to contact the tourist information center to obtain a permit. The fees are quite reasonable: 20 baht for adults, 10 baht for children, 30 baht for a four-wheeled car, 40 baht for pickup trucks, 50 baht for vans, and 70-80 baht for vehicles with more than four wheels. Note that permits must be requested at least one day in advance if you plan to head up Phanern Thung Mountain at 5:00 AM.

Kaeng Krachan Dam

เขื่อนแก่งกระจาน

佛统府是一个古老的城市，长期以来一直是泰国一个重要的边境城市，享有多方面的声誉。除了曾是昔日乍克里王朝国王的居所外，这里还有许多重要的旅游景点，其中包括重要而美丽的水库和发电站——格甘喀颂水库。在雨季，这里是一个让人感受到清新气息的美丽胜地，还设有悬索桥，可以让游客在这里漫步并拍摄美丽的风景。

如果您想要前往帕嫩通山，必须联系游客服务中心申请通行许可证，费用如下：成年人20泰铢，儿童10泰铢，小汽车30泰铢，皮卡车40泰铢，面包车50泰铢，四轮以上的车辆70-80泰铢。如果您希望在早上5点前往帕嫩通山，需要提前一天申请许可证。

Kaeng Krachan 大坝

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นอุทยานที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีพื้นที่ถึง 2,915 ตารางกิโลเมตร หรือ 1.8 ล้านไร่  

สามารถเดินทางโดยรถยนต์ และต่อด้วยเดินเท้าเข้าตัวน้ำตกอีก 4 กิโลเมตร มีความสูง 9 ชั้น ชั้นที่ 5 เป็นชั้นที่สวยที่สุด แต่ละชั้นสวยงามต่างกัน สภาพโดยรอบเป็นป่าไม้ร่มรื่น การเดินทางเข้าไปต้องมีเจ้าหน้าที่อุทยานนำทางเพื่อให้คำแนะนำ

Kaeng Krachan National Park is the largest national park in Thailand, covering an impressive area of 2,915 square kilometers or 1.8 million rai. 

Visitors can travel by car and then take a 4-kilometer hike to reach the waterfall. This stunning waterfall is made up of nine tiers, with the fifth tier being the most beautiful. Each tier offers a unique and captivating view, surrounded by lush, thriving forests. It's important to be accompanied by a park officer during your visit for guidance and support.

Kaeng Krachan National Park

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

全国公园——凱崑喧（Kaeng Krachan）是泰国最大的国家公园，面积达到2915平方公里，约合180万莱（rai）。

您可以开车前往，然后继续步行4公里到达瀑布。这个瀑布共有9层，其中第五层是最美丽的。每一层风景各具魅力，周围环绕着郁郁葱葱的森林。进入公园时需要有公园工作人员的引导，以便获得相关建议。

เพชรผ่อน


                มีเนื้อที่ 48.4 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองมุกดาหารและอำเภอดอนตาล ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายประกอบด้วยเทือกเขาน้อยใหญ่หลายลูกติดต่อกันเป็นลูกคลื่น
สลับกับหน้าผาสูงชันและลานหินกว้าง และเป็นส่วนปลายสุดของเทือกเขาภูพาน โดยมียอดเขาสูงที่สุดคือ ยอดภูจอมศรี มีความสูงประมาณ 170-420 เมตร จากระดับน้ำทะเล สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ ในช่วงปลายฝนต้นหนาวบริเวณลานหินจะเต็มไปด้วยดอกไม้ป่านานาชนิด สิ่งที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ได้แก่
กลุ่มหินเทิบ อยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยานฯ เป็นประติมากรรมธรรมชาติเกิดจากการกัดเซาะของน้ำฝน ลม และแสงแดด ผ่านกาลเวลา 95-120 ล้านปี ทำให้กลุ่มหินมีรูปร่างแตกต่างกันไป เช่น เก๋งจีน มงกุฎ จระเข้ หอยสังข์ ดอกเห็ด เป็นต้น ลานมุจลินท์ เป็นลานหินเรียบกว้างไกลต่อจากกลุ่มหินเทิบ มีป่าเต็งรังแคระล้อมรอบ ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะมีกลุ่มดอกหญ้าขนาดเล็กออกดอกบานสะพรั่ง เช่น ดุสิตา สรัสจันทร สร้อยสุวรรณา ทิพเกสร มณีเทวา หยาดน้ำค้าง หนาวเดือนห้า เป็นต้น 
น้ำตกวังเดือนห้า เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความสวยงามท่ามกลางป่าเขียวขจี มีน้ำเฉพาะช่วงฤดูฝน
ผาอูฐ หน้าผาแห่งนี้มีประติมากรรมหินรูปร่างคล้ายอูฐทะเลทรายและเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นภูถ้ำพระ ภูผักหวาน และผาขี้หมูได้ เบื้องล่างเป็นหุบเขากว้างไกลและป่าไม้เขียวขจี
ผางอย เป็นจุดชมวิวหน้าผาสูงชัน และมีกลุ่มโขดหินรูปร่างคล้ายเต่า เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้น 
น้ำตกภูถ้ำพระ เกิดจากสายน้ำจากผืนป่าด้านบนไหลมารวมกัน และไหลลงสู่โขดหินเบื้องล่าง สามารถเล่นน้ำได้เฉพาะฤดูฝน ด้านบนของน้ำตกมีเพิงหินขนาดใหญ่ มีพระพุทธรูปแกะสลักด้วยไม้อายุนับร้อยปี
ผามะนาว เป็นหน้าผาเรียบสูงชัน ในฤดูฝนจะมีน้ำตกไหลท่ามกลางผืนป่าที่สมบูรณ์ หน้าผาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกลุ่มหินเทิบและแม่น้ำโขงได้กว้างไกล 
ผาไทร เป็นจุดชมวิวด้านทิศใต้ มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล รวมทั้งแม่น้ำโขงพรมแดนธรรมชาติระหว่างไทยและลาว 
ถ้ำลอด ลักษณะเป็นเพิงหินแคบ คล้ายหินพิงกัน ตรงกลางเป็นช่องว่างแคบ ๆ สามารถเดินผ่านได้ 
ถ้ำฝ่ามือแดง เป็นเพิงหินกว้าง บริเวณผนังถ้ำมีรูปรอยฝ่ามือสีแดงและรูปอื่น ๆ อายุประมาณ 3,000 ปี โดยต้องเดินขึ้นเขาในเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 1.8 กิโลเมตร เพื่อไปชมถ้ำ 
ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ชาวไทย (ผู้ใหญ่) 20 บาท (เด็ก) 10 บาท ชาวต่างชาติ (ผู้ใหญ่) 200 บาท (เด็ก) 100 บาท บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านพัก ลานกางเต็นท์ อุปกรณ์กางเต็นท์ ห้องน้ำ และร้านค้าสวัสดิการให้บริการ 
สอบถามข้อมูล โทร. 0 4531 1677 ต่อ 701
และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 หรือ www.dnp.go.th

                
              

Covering an area of 48.4 square kilometers, this location spans the districts of Mukdahan and Don Tan. The landscape is characterized by sandstone mountains, comprising various hills that form a wave-like sequence alongside steep cliffs and wide rock plateaus. It marks the southernmost point of the Phu Phaeng mountain range, with its highest peak, Phu Chom Sri, standing at approximately 170-420 meters above sea level. The predominant forest type is dry dipterocarp and mixed deciduous forest. During the late rainy season and early winter, the rock plateaus bloom with a variety of wildflowers.

Some notable attractions within the park include:

- **Teib Rock Formation**: Located near the park headquarters, this natural sculpture has been shaped by the erosion from rain, wind, and sunlight over the past 95-120 million years, resulting in unique rock formations resembling a Chinese pavilion, crown, crocodile, conch shell, and mushroom.

- **Mujalint Plain**: This is a vast, flat rock area extending from the Teib Rock Formation, surrounded by stunted dry dipterocarp forest. During the late rainy season and early winter, clusters of small flowers such as Dusita, Saratsan, Suwan Khao, Thipkesorn, Manee Deva, and Dewdrop can be seen in full bloom.

- **Wang Duan Ha Waterfall**: A charming small waterfall nestled in lush greenery, it flows only during the rainy season.

- **Camel Cliff**: This cliff features a rock formation reminiscent of a desert camel and offers stunning views of Phu Tam Phra, Phu Pak Wan, and Phu Khee Moo. Below lies a vast valley surrounded by verdant forests.

- **Pha Ngoy**: Perfect for sunrise viewing, this steep cliff overlooks a field of rocks shaped like turtles.

- **Phu Tam Phra Waterfall**: This waterfall is formed by water flowing down from the forest above, cascading onto the rocks below, and is safe for swimming only during the rainy season. At the top of the waterfall, a large rock shelter houses an intricately carved wooden Buddha statue that is hundreds of years old.

- **Lime Cliff**: A steep, flat cliff that features a waterfall during the rainy season, providing sweeping views of the Teib Rock formations and the Mekong River.

- **Sai Cliff**: This viewpoint on the southern side offers extensive views, including the Mekong River, which serves as the natural border between Thailand and Laos.

- **Lod Cave**: This narrow rock shelter resembles leaning stones with a small gap in the center through which one can walk.

- **Red Handprint Cave**: A wide rock chamber marked with red handprints and other images estimated to be around 3,000 years old. Visitors must hike 1.8 kilometers along a nature trail to reach this cave.

The entrance fees to the park are as follows: 
- Thai citizens (adults) 20 baht, (children) 10 baht 
- Foreign visitors (adults) 200 baht, (children) 100 baht 

At the park headquarters, tourists can find a visitor center, accommodation, camping grounds, camping equipment, restrooms, and a convenience store. 

For inquiries, please call 0 4531 1677 extension 701 or contact the National Park, Wildlife and Plant Conservation Department in Bangkok at 0 2562 0760 or visit their website at www.dnp.go.th.

Phu Pha Thoep National Park

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ

该地区的面积为48.4平方公里，涵盖穆克达汉市和顿塔尔县，地形为波浪起伏的沙岩山脉，起伏的山丘和陡峭的悬崖相间，其末端为普潘山脉。最高峰为乔姆西山，海拔约170至420米。大部分森林是阔叶林和混交林，每年雨季结束时，广阔的石滩上会绽放出各种野花。

在国家公园内的几个吸引人之处包括：
- **特尔石群**：靠近公园管理处，由雨水、风和阳光侵蚀而形成的自然雕塑，历经95至120亿年，石头形状各异，像是中国亭、皇冠、鳄鱼、海螺和蘑菇等。
- **穆吉林滩**：在特尔石群附近，是一片广阔的平坦石滩，四周被矮小的阔叶林环绕，雨季结束时，成群的小草花悄然盛开，如杜斯塔、萨拉坎德、苏万娜饰带、提克果和万尼天女等。
- **五个月瀑布**：在郁郁葱葱的森林中，这是一处小巧而美丽的瀑布，仅在雨季时有水流。
- **骆驼岩**：这块悬崖上的岩石酷似沙漠骆驼，是绝佳的观景点，可以俯瞰到佛洞山、帕科山和猪屎岩，脚下是广袤的山谷和茂密的森林。
- **鼻岩**：这个高耸的观景点，有些岩石形态似乌龟，非常适合观日出。
- **佛洞瀑布**：上面的森林河流汇集后，跌落到岩石下，可在雨季时游玩，瀑布上有一个大石棚，雕刻着数百年历史的佛像。
- **青柠岩**：高耸的平滑悬崖，雨季时水流倾泻而下，四周的森林景观遥相呼应，可以俯瞰特尔石群和湄公河的壮丽景色。
- **榕树岩**：朝南的观景点，可以远眺到湄公河，作为泰国与老挝的自然边界。
- **穿越洞**：一种狭窄的岩嘴，中间有一个窄口可以通过。
- **红手掌洞**：宽大的岩棚，洞壁上有三千年前的红色手掌印和其他图案。前往此洞需在1.8公里的自然观察小径上攀爬。

国家公园的入园费为：
- 泰国公民（成人）20泰铢（儿童）10泰铢；
- 外国游客（成人）200泰铢（儿童）100泰铢。

公园管理处设有游客服务中心、住宿、露营地、露营设备、洗手间以及便利店供游客使用。

如需咨询信息，请拨打0 4531 1677 转701，或联系曼谷国家公园、野生动物和植物局，电话：0 2562 0760，网址：www.dnp.go.th。

Phu Pha Thoep 国家公园

ถ้ำฝ่ามือแดง อยู่บนยอดเขาจอมนางบนภูผาเทิบในเขตพื้นที่ ตำบลนาสีนวน อำเภอเมืองจังหวัดมุกดาหารมีลักษณะเป็นเพิงหินยาวขนาดของถ้ำ กว้าง ๓ เมตร ยาว ๖๐ เมตร ภายในถ้ำมีรูปมือ สีแดงประทับอยู่ ๑๐ มือ เป็นลักษณะใช้สีแดงทามือก่อนแล้วทาบเข้ากับผนังถ้ำ ๕ มือ ส่วนอีก ๕ มือ เป็นลักษณะเอามือไปทาบผนังแล้วเอาสีแดงเขียนตามรูปมือแต่ละนิ้ว
ฝ่ามือแดงที่ปรากฏในถ้ำยังไม่มีใครทราบประวัติความเป็นมาแต่สันนิษฐานว่าอายุไม่ต่ำกว่า ๕,๐๐๐ ปี

The Red Hand Cave is located at the peak of Phu Chom Nang on the Teib Mountain in the Nasi Nuan sub-district, Mueang District, Mukdahan Province. It features a long rock shelter with the cave measuring 3 meters wide and 60 meters long. Inside the cave, there are ten red handprints. Five of these were created by applying red pigment directly onto the hand and then pressing it against the cave wall, while the other five show handprints outlined with red paint tracing each finger after pressing against the wall.

The origin of the red handprints in the cave remains a mystery, though it is estimated that they are at least 5,000 years old.

red palm cave

ถ้ำฝ่ามือแดง

红手印洞穴位于木克达汉省穆城市纳西努安区的乔曼浪山顶上，展现出一片长达60米、宽3米的岩石棚洞。这座洞穴内有10个红色手印，呈现出在手上涂抹红色颜料后，再按压在洞壁上的样式，五个手印是直接按压在墙壁上，剩下的五个则是将手印涂上红色颜料后描绘出每根手指的形状。

关于洞内出现的红手印，至今尚无确切的历史记载，但估计其存在的年限不少于5,000年。

红掌洞

ตั้งอยู่ตำบลนาสีนวน ภายในวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ เป็นรูปปั้นองค์พญานาคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปรียบเสมือนพญานาคฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในสามองค์พญานาคที่มีความสำคัญของจังหวัดมุกดาหารที่สร้างขึ้นตามความเชื่อของผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบลุ่มแม่น้ำโขง ตั้งอยู่บริเวณลานหินด้านซ้ายทางขึ้นไปสักการะพระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ สร้างขึ้นเพื่อให้มาถวายการอภิบาลรักษาองค์พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ และเพื่อเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป ลักษณะขององค์พญานาคจะนอนขดตัวไปมา และชูลำคอสูงสง่าหันหน้าไปทางแม่น้ำโขงเบื้องล่าง ลำตัวมีความยาว 122 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางลำตัว 1.5 เมตร ลำคอสูง 20 เมตร เกล็ดสีเขียวอมฟ้า ดูงดงามและน่าเกรงขาม

Located in the Na Sin Nuan district within Wat Roi Phra Phutthabat Phum Narom, the statue of the Naga is the largest of its kind in Thailand. It symbolizes the celestial Naga and is one of three significant Nagas in Mukdahan province, built based on the beliefs of the local population living along the Mekong River. This impressive statue can be found in the rocky area to the left as you ascend to pay homage to the majestic Phra Chao Yai Kaeo Mukdasilak. It was created as a gesture of reverence and protection for Phra Chao Yai Kaeo Mukdasilak, serving as a site of respect and worship for the general public.

The Naga is depicted in a serpentine form, coiling gracefully and raising its majestic neck, facing the Mekong River below. The length of its body is 122 meters, with a diameter of 1.5 meters, and its neck rises to 20 meters. Adorned with beautiful, bluish-green scales, the statue is both stunning and awe-inspiring.

Phaya Sri Mukda Maha Muni Nilapanakharat

พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช

位于那斯林温区的佛脚山寺内，拥有泰国最大的佛教神灵雕像——佛教守护神“多头蛇”的雕塑。它被视为“天空之蛇”，是穆克达汉省三大重要蛇神之一，按照生活在湄公河流域人们的信仰而建造。雕像位于通往供奉“大佛宝石”的石砾广场左侧，旨在为“大佛宝石”提供庇护与保护，并成为普通民众尊敬和膜拜的对象。

这座多头蛇的造型蜷曲而卧，优雅地抬起高昂的脖子，面朝湄公河，给人一种庄重而神秘的气息。其主体长度达到122米，直径为1.5米，脖子高达20米，鳞片呈现出美丽的蓝绿色，令人赞叹且富有威严。

ตั้งอยู่ถนนสำราญชายโขง ริมแม่น้ำโขง อยู่ตรงข้ามท่าเทียบเรือท่าข้ามเทศบาลเมืองมุกดาหารและด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน “พระเจ้าองค์หลวง” พระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน มีขนาดหน้าตักกว้าง 2.20 เมตร ส่วนสูงเฉพาะองค์ถึงยอดพระเมาลี 2 เมตร เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง สร้างขึ้นก่อนตั้งเมืองมุกดาหาร แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างในสมัยใด ตามตำนานเล่าว่าเมื่อปี พ.ศ. 2310 ขณะที่เจ้ากินรีคุมบ่าวไพร่ถางพงอยู่ใกล้ต้นตาลเจ็ดยอด เมื่อครั้งสร้างเมืองใหม่นั้น ได้พบพระพุทธรูปสององค์ องค์ใหญ่เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน องค์เล็กเป็นพระพุทธรูปเหล็กอยู่ใต้ต้นโพธิ์ เจ้ากินรีจึงสร้างวัดขึ้นบริเวณนั้น เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปทั้งสององค์ วันหนึ่งเมื่อพระภิกษุประจำวัดเข้าไปสักการะ ปรากฏว่าไม่พบพระพุทธรูปเหล็ก เมื่อค้นดูรอบบริเวณวัด พบว่าพระพุทธรูปเหล็กไปประดิษฐานอยู่ใต้ต้นโพธิ์ตามเดิม และจมลงในดิน เหลือแต่ยอดพระเมาลีเป็นที่น่าอัศจรรย์ เจ้ากินรีจึงสร้างแท่นสักการะบูชาไว้ ณ ที่นั้น และถวายนามว่า “พระหลุบเหล็ก” ส่วนพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ เรียกนามว่า “พระเจ้าองค์หลวง” เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมุกดาหารนับแต่นั้นมา

Located on Samran Chai Khong Road by the Mekong River, directly across from the Tha Kham municipal pier and the Mukdahan immigration checkpoint, the temple houses the revered "Phra Chao Ong Luang," a brick and mortar Buddha statue. This statue has a lap width of 2.20 meters, while its total height, including the crown, reaches 2 meters. It is considered a significant symbol of the city, having been constructed even before the establishment of Mukdahan, although the exact period of its creation remains undocumented.

Legend has it that in the year B.E. 2310, when Lady Kinri was overseeing workers clearing the jungle near the Seven Tops palm tree during the city's founding, two Buddha statues were discovered: a large brick and mortar statue and a smaller iron statue nestled beneath a Bodhi tree. In honor of this discovery, Lady Kinri established a temple in the area to enshrine both statues. 

One day, as the resident monk entered the temple to make offerings, he noticed that the iron statue was missing. Upon searching the surrounding area, he found the iron statue had returned to its original resting place beneath the Bodhi tree, where it had sunk into the earth, leaving only the crown visible—an astonishing sight. Consequently, Lady Kinri built a shrine at that location and named the smaller statue "Phra Lub Lek" (the Iron Buddha), while the larger statue was placed within the temple and has since been known as "Phra Chao Ong Luang." This great Buddha statue has stood as a beloved icon of Mukdahan ever since.

Wat Sri Mongkhon Tai

วัดศรีมงคลใต้

位于香兰男公路旁，紧邻湄公河，对面是穆克达汉市的泰卡姆码头和穆克达汉省的入境检查站。寺庙内供奉着“师父像”，这是一尊用砖石建造的佛像，宽度达到2.20米，高度从底座到顶端为2米。这尊佛像是穆克达汉地区的象征，早在该城成立之前便已建造，但有关建造时期的详细记录尚不明确。

传说在公元2310年，贵族基尼正在附近的七顶椰子树周围为开辟新城而工作时，意外发现了两尊佛像：一尊是用砖石建造的大佛，另一尊较小的铁佛则位于菩提树下。基尼因而在此建造了一座寺庙，以供奉这两尊佛像。

有一天，寺庙的僧侣前来祭拜，却发现铁佛不见了。经查找周围，发现铁佛依然在原处的菩提树下，只是埋入土中，唯有顶端显现，这无疑令众人惊奇。基尼于是为此建立了一个崇拜祭坛，并给予这尊佛像一个名字——“铁佛”。而那尊大型佛像则供奉在寺庙中，名为“师父像”，自此成为穆克达汉的象征。

Wat Sri Mongkhon Tai 寺

เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีศาลองค์ปู่พญานาค และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้นักท่องเที่ยวได้เคารพสักการะ บริเวณโดยรอบมีสวนหย่อม ศาลาที่พัก ไม้ประดับ มีร้านอาหาร จุดจอดรถบริการนักท่องเที่ยว และใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมถนนคนเดินของจังหวัดมุกดาหารด้วย

It is a beautiful viewpoint that features the shrine of the great Naga spirit and sacred objects for tourists to pay their respects. The surrounding area includes landscaped gardens, resting pavilions, ornamental plants, restaurants, and parking facilities for visitors. Additionally, it serves as a venue for the walking street activities in Mukdahan province.

Viewpoint of the 2nd Thai-Lao Friendship Bridge

จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ ๒

这是一个美丽的观景点，拥有神圣的龙神庙以及其他供游客膜拜的圣物。周围环境中有景观花园、休息亭、绿化以及餐馆，设有游客停车区，并且也是穆克达汉省步行街活动的举办地。

第二座泰老友谊大桥观景台

 น้ำตกตาดโตน จังหวัดมุกดาหาร เป็นน้ำตกตกแห่งเดียวและเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัด คำว่า "ตาด" ในความหมายของภาษาอีสาน คือ "น้ำตก หรือ ลานหินที่มีน้ำไหล" ส่วนคำว่า "โตน" มีความหมายว่า "กระโดด" น้ำตกตาดโตน มีลักษณะเป็นน้ำตกชั้นเดียว มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีแนวราบยาวสวยงาม ความสูงน้ำตกประมาณ 7 เมตร กว้าง 30 เมตร มีแอ่งน้ำสำหรับเล่นน้ำได้ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น สวยงาม ในช่วงปลายฤดูฝนถึงฤดูร้อนน้ำจะใสไหลเย็นยิ่งชวนให้น่าลงเล่นน้ำเป็นอย่างมาก ในบริเวณน้ำตกจะมีร้านอาหารและร้านค้าไว้บริการ หากต้องการซื้อของฝากติดไม้ติดมือบริเวณทางเข้าน้ำตกยังมีสินค้าพื้นบ้าน สินค้าขึ้นชื่อของอำเภอหนองสูงไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อติดไม้ติดมืออีกด้วย คนส่วนมากจะมาที่นี่กันในหน้าแล้งของทุกปีเพื่อคลายร้อนกัน จึงไม่แปลกที่จะเห็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย 

                
              

Tat Ton Waterfall in Mukdahan province is the only waterfall and the largest one in the region. The term "Tat" in the Isaan language means "waterfall or a stone platform with flowing water," while "Ton" translates to "jump." Tat Ton Waterfall features a single tier with water flowing year-round, boasting a beautiful long horizontal stretch. The waterfall stands about 7 meters high and is 30 meters wide, creating a natural swimming area amidst lush surroundings. During the late rainy season to summer, the water is clear and inviting, making it a delightful spot for a refreshing swim.

Nearby the waterfall, there are restaurants and shops available for visitors. If you’re looking to take home some souvenirs, the entrance to the waterfall offers a selection of local handicrafts and renowned products from Nong Suang district, perfect for tourists to purchase. Every dry season, many people flock to this spot to cool off, so it’s common to see both children and adults enjoying the serene, refreshing atmosphere.

Tat Ton Waterfall

น้ำตกตาดโตน มุกดาหาร

在泰国穆克达汉省，塔德通瀑布是该省唯一且最大的瀑布。"塔德"在伊山语中意为"瀑布或有水流的岩石平台"，而"通"则意味着"跳跃"。塔德通瀑布呈现单层瀑布的形态，全年水流不断，瀑布宽敞美丽，落差约为7米，宽度达到30米。这里的水池非常适合在大自然中畅游，周围环境幽静优美。在雨季末期到夏季时，水清澈且凉爽，更加诱人前来玩水。瀑布附近设有餐馆和商铺，方便游客就餐和购物。如果你想带些特产作为纪念，瀑布入口处还有当地特产和著名商品供游客选购。每年夏季，许多人都会前来此地避暑，因此你常常会看到儿童与成人，共同享受这宁静而凉爽的环境。

达顿瀑布

สถานที่พักผ่อนของคนในจังหวัด มองเห็นฝั่งประเทศลาวได้อย่างชัดเจน ของกินขึ้นชื่อของที่นี่คือหมูหัน นักท่องเที่ยวสามารถแวะเข้ามาถ่ายรูปกับพญานาคราช ซึ่งถือแลนด์มาร์คที่โดดเด่นทำขึ้นมาจากหินอ่อน ลำตัวสีขาวหันหน้าไปทางลำน้ำโขงมีความงดงามและสง่างามเหมาะกับการเก็บภาพเมื่อมาเยือน

โดยรวมถือเป็นสถานที่พักผ่อนที่ควรแวะมาเที่ยวยามเย็นเลยล่ะ บรรยากาศดีติดแม่น้ำลมเย็นสบาย ที่จอดรถมีมากมายเหลือเฟือ

This recreational spot in the province offers a clear view of the Laotian side. A renowned local delicacy here is the roasted pig. Tourists can stop by to take pictures with the magnificent Naga King statue, which stands out as a remarkable landmark. Crafted from marble, the statue features a striking white body, facing the Mekong River, exuding beauty and grace—perfect for capturing memorable photos during your visit.

Overall, it’s a wonderful place to unwind, especially in the evening. The atmosphere is pleasant with a gentle breeze by the riverside, and there is plenty of parking available.

Kaeng Kabao

แก่งกะเบา

这个地方是当地居民的休闲胜地，可以清晰地看到老挝的岸边。这里的特色美食是烤猪肉，游客可以停下来与壮观的白色大蛇雕像合影，这座雕像是用大理石制作的，挺立在湄公河边，十分优美和庄重，适合拍照留念。

总的来说，这里是一个非常适合傍晚游玩的休闲场所，环境宜人，临近河流，空气清新。停车位非常充足，方便游客前来。

康卡宝


                น้ำตกคำชะอี ตั้งอยู่หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 24 บ้านศรีมงคล หมู่ที่ 8 ตำบลคำชะอี เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่สวยงามไหลลงมาจากหน้าผาสูง ประมาน 4 เมตร ไหลผ่านโขดหินสลับซับซ้อน บรรยากาศร่มรื่นเหมาะแก่การเล่นน้ำและพักผ่อนหย่อนใจ มีน้ำตลอดปี ธารน้ำยาวประมาณ 100 เมตร เกิดจากลำห้วยคันแทใหญ่ไหลผ่านก้อนหินและซอกหินที่เรียงตัวซ้อนกันอยู่ ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นเวลาที่เหมาะกับการเที่ยวชมความงามและเล่นน้ำแห่งนี้
การเดินทาง จากตัวอำเภอคำชะอี ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 (คำชะอี-สมเด็จ)
และเลี้ยวขวาเข้าถนนตรงข้ามโรงเรียนชุมชนบ้านคำชะอี ตรงเข้าไปตามเส้นทางหลวงชนบท รวมระยะทางจากตัวอำเภอคำชะอี ประมาณ 12 กิโลเมตร



                
              

Kham Chae Waterfall is located at the Mobile Development Unit 24, Ban Sri Mongkhon, Moo 8, Kham Chae Sub-district. This beautiful small waterfall cascades down a cliff approximately 4 meters high, flowing through a series of intricate rocks. The lush surroundings create a perfect atmosphere for swimming and relaxation, with flowing water available year-round. The stream runs about 100 meters, originating from the Kantae River as it meanders through the layered rocks. The best time to visit this enchanting spot and enjoy its refreshing waters is during the late rainy season to early winter.

To get there, from the center of Kham Chae district, take Highway 12 (Kham Chae - Somdet) and turn right onto the road opposite the Ban Kham Chae Community School. Continue along the rural road for a total distance of about 12 kilometers from the district center.

Khamcha-i Waterfall

น้ำตกคำชะอี

卡姆沙伊瀑布位于第24流动发展单位，斯里蒙克尔村，第8组，卡姆沙伊区。这是一个小而美丽的瀑布，从约4米高的悬崖流下，水流沿着崎岖的岩石，形成了层叠的景观。这里环境幽静，非常适合游泳和放松身心，且水量保持恒定，四季皆可享受。水流长约100米，由大坎太溪穿越石块和重叠的岩石缝隙而成。每年雨季末和冬季初是游览和戏水的最佳时节。

前往卡姆沙伊瀑布的路线从卡姆沙伊县城出发，沿12号国道（卡姆沙伊-苏梅德）行驶，然后右转进入与卡姆沙伊村社区学校相对的道路，继续沿乡村公路前行，距离卡姆沙伊县城大约12公里。

Khamcha-i 瀑布

มุกดาไม่หารนะ

ตั้งอยู่บ้านหว้านใหญ่ ตำบลหว้านใหญ่ บริเวณริมแม่น้ำโขง ภายในวัดมีโบราณสถานที่น่าสนใจ คือ สิม(พระอุโบสถ) เก่าแก่ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2459 โดยช่างชาวเวียดนาม ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงามเรื่องพระเวสสันดรชาดก และภาพเหตุการณ์ที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพประทับนั่งอยู่บนเกวียนเมื่อครั้งเสด็จตรวจหัวเมืองในมณฑลอีสาน นอกจากนี้ภายในวัดยังมีอาคารทรงยุโรปอายุเก่าแก่ เคยใช้เป็นที่ทำการกิ่งอำเภอหว้านใหญ่ในอดีตเมื่อเกือบร้อยปีมาแล้ว โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้แล้ว

Located in Ban Wan Yai, in the Wan Yai Subdistrict along the banks of the Mekong River, this temple is home to several fascinating historical sites. Among them, the old Sim (the main ordination hall) stands out, having been constructed in 1916 by Vietnamese craftsmen. Inside, you'll find exquisite murals depicting the Vessantara Jataka, alongside scenes showing His Royal Highness Prince Damrong Rajanubhab seated in a cart during his inspection tour of towns in the Isan region. 

Additionally, the temple features a remarkably old European-style building, which once served as the administrative office for the Wan Yai District nearly a hundred years ago. The Fine Arts Department has officially registered this site as a historic landmark, preserving its cultural significance for future generations.

Wat Phra Si Maha Pho

วัดพระศรีมหาโพธิ์

位于丰盛村的大佛寺，坐落在湄公河旁边。寺内有一处引人入胜的古迹，即建于公元1916年的老式佛殿(寺庙)，由越南技师所建。殿内装饰有精美的壁画，内容是关于维萨登的大悲故事，以及描绘了许多年前，当时的王子德拉蒙亲王坐在马车上视察东部省份的情景。此外，寺内还保留有一座古老的欧洲风格建筑，曾经是近百年前的丰盛分县办公室，现已由艺术局注册为古迹。

Memories Cafe

ความทรงจำคาเฟ่

回忆咖啡馆

ที่เขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี บรรยากาศรับวันหยุดแรกของสัปดาห์เทศกาลปีใหม่ เดือนมกราคม 2561 ที่ยังถือว่าอยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ และฤดูหนาวนี้สภาพอากาศทั่วไปยังมีอากาศดีและหนาวเย็น จึงเหมาะกับการเดินทางมาพักผ่อนและท่องเที่ยวชมธรรมชาติ โดยเฉพาะในเขตอุทยาแห่งชาติผาแต้ม บริเวณทุ่งดอกไม้ป่าขนาดใหญ่ บนเนื้อที่ 20 ไร่ ที่สวยงามและออกดอกบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมอบอวนโดยมีพันธ์ดอกไม้ป่ามากกว่า 40 ชนิด ซึ่งดอกไม้เหล่านี้ขึ้นเองตามธรรมชาติที่มีความสวยงาม บริเวณลานหินทรายอันโล่งแล้ง ที่เคยมีแต่ต้นหญ้าสั้น ๆ เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์ธรรมชาติประจำฤดูกาลขึ้น เมื่อมวลหมู่ดอกไม้ป่า (ส่วนใหญ่เป็นพืชกินแมลง) ดอกเล็ก ดอกน้อย สารพัด สารพันนับแสน ๆ ดอก ที่ซุกซ่อนกายอยู่ใต้ผิวดิน ต่างพร้อมใจกันผลิดอก แตกกลีบ ชูช่อไสว เริงระบำทักทายลมหนาวพราวสะพรั่งเต็มท้องทุ่งดูสวยงามตระการตาไปทั่วบริเวณ

At the Phu Taem National Park in Ubon Ratchathani province, the atmosphere is perfect for the first holiday of the week during the New Year festival in January 2018. It is still considered part of the New Year festivities, and the winter season brings pleasant and chilly weather, making it an ideal time to relax and explore nature. 

Particularly noteworthy is the expansive 20-rai field of wildflowers blooming vibrantly within the national park. This beautiful area is home to over 40 species of wildflowers that emit a fragrant aroma, and these flowers thrive naturally in their surroundings. The previously barren sandy rock plains, once only dotted with short grass, have transformed into a stunning spectacle of nature during this seasonal phenomenon. 

The vibrant array of wildflowers, many of which are insect-eating plants, burst forth in a breathtaking display. Countless tiny blooms have emerged from beneath the surface, harmoniously blossoming and swaying gracefully in the cool breeze, creating a picturesque and enchanting landscape that mesmerizes visitors across the entire area.

field of wild flowers Pha Taem National Park

ทุ่งดอกไม้ป่า อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

在乌汶榭他尼省的帕坦国家公园，1月2561年新年节假日的第一天，空气中弥漫着节日的氛围，正值新年假期和冬季。此时的天气依然良好，温度适宜，非常适合到此地放松心情，观赏大自然的美景。特别是在帕坦国家公园的广阔野花原上，面积达20亩，绽放着各种美丽的野花，散发出迷人的芬芳。这片区域生长着超过40种的野生花卉，这些花朵在自然环境中茁壮成长，生机盎然。在干燥的沙岩地带，曾经只有短草生长的地方，迎来了每季的自然奇观。当成千上万、形态各异的野花（大多数是食虫植物）同时悄然绽放，花瓣逐渐舒展，迎风摇曳，尽情舞蹈，呈现出一幅美丽的画面，令人叹为观止。

野花的领域Pha Taem 国家公园

"แกรนแคนย่อนเมืองไทย” คือฉายาของสามพันโบก สถานที่ที่เป็นแก่งหินหรือกุมภลักษณ์ที่อยู่ใต้ลำน้ำโขง ในอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี เกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะ กลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง และจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้งขอด แก่งหินดังกล่าวก็จะโผล่พ้นน้ำคล้ายภูเขากลางลำน้ำโขง จนชาวบ้านเรียกว่า แกรนแคนยอนน้ำโขง

ความสวยงามตระการตาของหินที่ถูกน้ำเซาะสามารถมองเห็นเป็นภาพศิลปะได้หลายรูปแบบ บางแห่งใหญ่ขนาดเป็นสระว่ายน้ำได้เลย และบางแอ่งก็มีขนาดเล็ก มีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างกันออกไป เช่น รูปดาว วงรี มิกกี้เม้า และหินที่ถูกน้ำกัดเซาะจนดูคล้ายรูปหัวสุนัขพูเดิล มีความสวยงามแปลกตา เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจกับนักท่องเที่ยว

"The 'Grand Canyon of Thailand' is the nickname for Sam Phan Bok, a stunning rock formation located beneath the Mekong River in the Pho Sai district of Ubon Ratchathani. This natural wonder, shaped by the powerful currents of the river, features over 3,000 unique pools and holes that become visible during the dry season when the water recedes. The rock formations emerge from the river like islands, leading local residents to refer to it as the Mekong Grand Canyon.

The breathtaking beauty of the rocks sculpted by the water offers a remarkable display of natural artistry. Some of the pools are large enough to swim in, while others vary in size and shape, resembling stars, ovals, Mickey Mouse, and even a poodle's head. This unusual beauty captivates and astounds visitors, making it a must-see destination."

Sam Phan Bok

สามพันโบก

“泰国的大峡谷”是三千波克的别名，这个地方是位于泰国乌隆府波萨县的湄公河底部的岩石群或水池。它是由水流的侵蚀作用形成的，形成了超过3,000个水池，通常在干旱季节水位降低时显现出来，这些岩石像是湄公河中的山峰，因此当地人称之为湄公河大峡谷。

被水流侵蚀后的岩石展现出令人惊叹的美丽，仿佛是一幅幅艺术作品。有些地方的岩池大得可以游泳，另一些则小巧玲珑，形态各异，比如星形、椭圆形、米老鼠的形状，以及一种被水流侵蚀到看起来像贵宾犬头部的岩石，展现出独特的美感，令游客们惊叹不已。

三潘福

ทะเลทรายอีสานต้องยกให้หาดหงส์ที่อุบล เมื่อน้ำโขงลดลงเราจะสามารถมองเห็นทะเลทรายแห่งได้อย่างชัดเจน การเดินทางไปที่หาดนี้จะต้องมาขึ้นเรือกันที่หาดสลึง ซึ่งเป็นจุดจอดเรือให้บริการนักท่องเที่ยว เรือจะพาเราล่องไปตามแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเขตแดนธรรมชาติกั้นระหว่างฝั่งไทยและฝั่งลาว สองข้างฝั่งแม่น้ำยังคงเห็นผู้คนลงมาใช้ชีวิตตามวิถีกันอย่างน่ารัก นั่งเรือกันเพลินๆ ไม่นานก็มาถึงหาดหงส์

The Isaan Desert truly deserves its reputation, especially at Hae Hong Beach in Ubon. When the Mekong River recedes, the desert landscape becomes vividly visible. To reach this beach, you need to board a boat at Haad Salung, which serves as a docking point for tourists. The boat takes you on a serene journey along the Mekong River, which serves as a natural border between Thailand and Laos. On both riverbanks, you can see locals living their charming lives, embracing their traditional ways. As you enjoy the boat ride, it doesn't take long before you arrive at Hae Hong Beach.

Hong Beach Ubon

หาดหงส์ อุบล

在东南亚的沙漠中，乌汶的凤沙滩绝对值得一游。当湄公河水位下降时，我们可以清楚地看到这个沙漠的景象。前往这个沙滩的旅程，需要从萨灵沙滩登船，这里是为游客提供服务的停靠点。船只将带我们顺流而下，沿着湄公河，这条自然边界将泰国和老挝隔开。河岸两旁，人们依旧在悠然地过着生活，活泼而可爱。坐在舒适的船上，不久之后，我们就会抵达凤沙滩。

乌汶洪海滩

ไปกันวันไฟดับ

มีหินงอกหินย้อยที่งดงามรูปต่าง ๆต ามชื่อห้อง เช่น โคมระย้า พระปรางค์ และเจดีย์ ภายในถ้ำมีอากาศโปร่งแต่มืดสนิท ต้องมีไฟฉายหรือตะเกียงไปด้วย และควรมีคนนำทางไป นอกจากที่นี่ยังมีสัตว์แปลกๆ ซึ่งไม่ค่อยได้พบเห็นกันทั่วไปนัก

There are beautiful stalactites and stalagmites in various forms, each named after different rooms, such as "Chandelier," "Prang," and "Chedi." Inside the cave, the atmosphere is open yet completely dark, so it's essential to bring a flashlight or lantern, and it's advisable to have a guide. Additionally, this place is home to unique animals that are not commonly seen elsewhere.

Daowadueng Cave

ถ้ำดาวดึงส์

这里有美丽的钟乳石和石笋，形状各异，分别命名为吊灯、佛塔和宝塔。洞内空气通透但光线昏暗，因此必须携带手电筒或灯具，并建议有带导游。此外，这里还有一些不常见的奇特动物。

道瓦顿洞

อุทยานแห่งชาติไทรโยค มีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 500 ตารางกิโลเมตรหรือ 312,500 ไร่ สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง อุทยานแห่งชาติไทรโยค เป็นแหล่งอาศัยที่สำคัญของสัตว์หายาก 2 ชนิด คือ ค้างคาวกิตติ ค้างคาวที่เล็กที่สุดในโลก และปูสามสีหรือปูราชินี ปูน้ำจืดชนิดใหม่ของโลก


Sai Yok National Park covers an area in both Thong Pha Phum District and Sai Yok District in Kanchanaburi Province. It spans approximately 500 square kilometers, or 312,500 rai. The park's landscape is predominantly made up of mixed deciduous and dry evergreen forests. Sai Yok National Park serves as a crucial habitat for two rare species: the Kitti's hog-nosed bat, the smallest bat in the world, and the three-colored crab, also known as the queen crab, which is a newly discovered freshwater species.

Sai Yok National Park - Sai Yok National Park

อุทยานแห่งชาติไทรโยค  - Sai Yok National Park

泰尤克国家公园位于泰忠府的通帕地区和泰尤克地区，面积约为500平方公里，或312,500英亩。该公园的大部分森林为五种阔叶树和干燥森林。泰尤克国家公园是两种稀有动物的重要栖息地，分别是世界上最小的蝙蝠——吉蒂蝙蝠，以及三色蟹或女王蟹，这是一种新的淡水蟹物种。

赛友国家公园 - 赛友国家公园

กาญจนบุรีเป็นสถานที่แห่งความทรงจำอันเจ็บปวดของเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรและครอบครัว ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อพวกเขาต้องตกระกำลำบากกลายเป็นแรงงานทาสของจักรวรรดิญี่ปุ่น บ้างก็ต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ และหนึ่งในสถานที่สำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ดังกล่าวก็คือ “ช่องเขาขาด”

การที่คนไทยเรียกพื้นที่จุดนี้ว่า “ช่องเขาขาด” ก็มาจากลักษณะทางกายภาพที่ปรากฏของมันเอง ส่วนที่ชาวตะวันตกขนานนามพื้นที่แห่งนี้ว่า “ช่องไฟนรก” นั้น ร็อด บีตตี (Rod Beattie) จากศูนย์เส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า อธิบายกับ Smithsonian Channel ว่า หลังจากที่มีการวางรางรถไฟไว้สองด้านรอไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “พวกเขา [ทหารญี่ปุ่น] ต้องการให้มันเสร็จสักทีก็เลยจัดแรงงานไว้สองกะ กะละ 12 ชั่วโมง เป็นกะกลางวันกับกะกลางคืน การจะทำงานตอนกลางคืนได้ก็ต้องมีแสง พวกเขามีหลอดไฟส่องสว่างอยู่บ้าง แต่แหล่งแสงสว่างส่วนใหญ่มาจาก ‘ไฟ’ คนกลุ่มนี้ [เชลยศึก] ส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์ ซึ่งตอนเด็กพวกเราต่างก็ถูกปลูกฝังด้วยภาพของนรกที่ประกอบด้วยปีศาจและไฟนรก ‘ไฟนรก’ จึงกลายมาเป็นชื่อของช่องทางนี้ก็ด้วยภาพของกองเพลิงยามค่ำคืน และฝูงชนที่ต้องทำงานเยี่ยงทาสเบื้องหน้าปีศาจ”

ข้อมูลจากเว็บไซต์ silpa-mag

Kanchanaburi holds a painful place in the memory of Allied prisoners and their families during World War II when they endured immense suffering as forced laborers for the Japanese Empire. Many lost their lives here, and one significant site connected to these events is the "Hellfire Pass."

The name “Hellfire Pass” as referred to by Westerners was described by Rod Beattie from the Thai-Burma Railway Centre in an interview with the Smithsonian Channel. He explains that once the railway tracks were laid down on either side, “they [the Japanese soldiers] wanted to finish it at all costs, so they organized laborers into two shifts, each lasting 12 hours, both day and night. Working at night required light, and although there were some light bulbs, most of the illumination came from the ‘fires’—the prisoners themselves. Most of these prisoners were Christians who had been raised on images of hell filled with demons and hellfire, which gave rise to the name ‘Hellfire Pass’ due to the image of infernos at night and crowds forced to labor like slaves before their demonic overseers.”

This account brings to light the hard realities faced by those who labored in this grueling environment, leaving a haunting legacy that transcends time.

Hellfire Pass

ช่องเขาขาด

在二战期间，甘托纳布里是盟军战俘和其家人痛苦回忆的地方。在这段艰难的历史中，他们成为了日本帝国的奴隶，许多人在此献出了生命。其中一个与这一事件密切相关的重要地点便是“断崖峡”。

泰国人称这个地方为“断崖峡”，源于其自身的地理特征。而西方人则称这里为“地狱之隙”。来自泰缅铁路中心的罗德·比蒂（Rod Beattie）在史密森频道中解释道：“在铁路轨道两侧已经铺设完毕后，‘他们（日本士兵）希望尽快完成，所以就分成两个班，每班12小时，一个是白班，一个是夜班。夜间工作需要光源，他们有一些电灯，但大部分光源来自于这些‘战俘’。大部分战俘是基督徒，自小就被灌输有关于充满恶魔和地狱火的地狱场景，因此‘地狱火’便成为了这条通道的名字，正是因为那夜晚的火焰和那些在恶魔面前如奴隶般工作的众人。”

以上信息摘自silpa-mag网站。

地狱火通行证

ตั้งอยู่ในวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมือง อยู่ห่างจากถนนแสงชูโต ประมาณ 300 เมตร ตัวอาคารสร้างเป็นกระท่อมไม้ไผ่เลียนแบบค่ายเชลยศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมภาพถ่าย ภาพเขียนและบทความที่แสดงถึงความเป็นอยู่ของเชลยศึก ตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้ อาวุธปืนและลูกระเบิดในสมัยนั้นเพื่อสะท้อนให้เห็นบทเรียนอันน่าสะพรึงกลัวของสงคราม


Located within Wat Chai Chum Phon Chanason (Wat Tai) in the Ban Tai sub-district of Mueang District, it is about 300 meters from Saeng Chuto Road. The building is designed as a bamboo hut, mimicking a prisoner-of-war camp from World War II. This museum houses a collection of photographs, paintings, and articles that depict the life of the prisoners, as well as tools, weapons, and bombs from that era. It aims to reflect the terrifying lessons of war.

JEATH War and JEATH War Museum

พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก

位于华赢古寺（下寺），位于邦下镇，位于美功县，距离沙英朱多大街约300米。建筑采用竹木小屋设计，模仿二战时期的战争俘虏营，是一座博物馆，收藏了展示战俘生活的照片、绘画和文章，以及当时的工具、武器和炸弹，旨在反映战争带来的可怕教训。

JEATH 战争和 JEATH 战争博物馆

มิ้งและที่รัก

ต๋องเต็มโต๊ะ ซอย 13 ร้านอาหารพื้นเมืองขนาดใหญ่พร้อมที่นั่งแบบ outdoor ร่มรื่น เสิร์ฟเมนูพื้นเมืองดั้งเดิมหลายเมนู เป็นอีกหนึ่งร้านที่นักท่องเที่ยวมักจะแวะมาชิมกัน โดยเฉพาะคนกรุงเทพ ราคาอาหารก็ไม่แพง

"Thong Tem Toh" located on Soi 13 is a spacious eatery that features a charming outdoor seating area, surrounded by lush greenery. This restaurant serves a variety of traditional local dishes, making it a popular stop for tourists, especially those from Bangkok. The prices are also quite affordable, adding to its appeal.

Tong Tem Toh - TongTemToh

ต๋องเต็มโต๊ะ - TongTemToh (ซ.13)

在13巷的“通满桌”是一家大型地方特色餐厅，提供舒适的户外座位，让人感受到清新自然的氛围。这里有多种传统地方美食，是游客们常常光临的餐厅之一，尤其是来自曼谷的人们。此外，这里的菜品价格也相对亲民，十分值得一试。

One Nimman เป็นห้างสรรพสินค้าของเมืองเชียงใหม่ที่รวมร้านค้า ศิลปะ วัฒนธรรม และความร่วมสมัย บนทำเลที่โดดเด่นที่สุดบนถนนนิมมานเหมินทร์ 

ที่ตั้งของ ONE NIMMAN ที่เชื่อมโยงระหว่างรูปแบบชีวิตสมัยใหม่ กับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลงตัว โดยรวบรวมร้านอาหาร พื้นที่ศิลปะ คาเฟ่ บาร์ ร้านของฝาก รวมถึงศูนย์รวมสินค้าคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ให้คุณเพลิดเพลินกับการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุด

One Nimman is a shopping center in Chiang Mai that beautifully blends shops, art, culture, and contemporary vibes, all situated in one of the most prominent locations on Nimmanhaemin Road.

The layout of One Nimman perfectly connects modern living with local culture. It features a diverse selection of restaurants, art spaces, cafes, bars, and souvenir shops, all harmoniously combined with a curated collection of high-quality products. This makes for an enjoyable experience as you explore and choose from the very best offerings.

One Nimman

One Nimman是清迈市一家独特的购物中心，融合了商店、艺术、文化和现代生活的元素，位于Nimmanhaemin街上一个显著的位置。

One Nimman的地理位置完美地将现代生活方式与当地文化相结合，这里汇聚了餐厅、艺术空间、咖啡馆、酒吧和纪念品商店，此外还有一系列经过精心挑选的优质商品，让您尽情享受挑选最优质商品的乐趣。

一个尼曼

ท่าช้าง คาเฟ่ ข้าวเย็น

look at home

แหล่งพักผ่อนของนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เพราะที่นี่ถือว่าเป็นที่เที่ยวพักผ่อนที่มีวิวสวยๆ และหนึ่งในที่เที่ยวที่รู้จักกันของ เชียงใหม่ ในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกด้วย

สถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ 1 ในใจเด็กมช และเหมาะกับหลายๆคนที่อยากจะมานั่งชมวิวทิวทัศน์ของดอยสุเทพ ถ่ายรูปเช็คอิน และที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับคนรักน้องหมา เพราะในทุกๆเย็นจะมีกลุ่มคนที่พาน้องหมาหรือสัตว์เลี้ยงของตัวเองมาวิ่งเล่นที่ลานสังคีตซึ่งอยู่ติดกับอ่างแก้ว ซึ่งเราก็สามารถเล่นกับน้องๆได้ นับเป็นสวรรค์ของทาสเลยล่ะ

A popular relaxation spot for students at Chiang Mai University, this destination is known for its beautiful views and is also a favorite among international tourists visiting Chiang Mai.

Ranked as the top leisure spot in the hearts of CMU students, this place is perfect for anyone looking to sit back and enjoy the scenic vistas of Doi Suthep, capture memorable photos, and check in on social media. It's a must-visit for dog lovers as well, as every evening, groups gather to bring their dogs or pets to play at the Sasang Khit lawn next to Ang Kaew. Here, we can also join in the fun with the furry friends, making it a true paradise for pet enthusiasts!

Ang Kaew CMU.

อ่างแก้ว มช.

清迈大学的学生休闲胜地，因为这里是一个拥有美丽风景的休闲旅游地，也是外国游客知名的景点之一。

这个地方是清迈大学学生心中最受欢迎的休闲场所，非常适合那些想要欣赏素贴山美景、拍照打卡的人。而且，对于狗狗爱好者来说，这里更是不可错过的地方。每到傍晚，都会有一群人带着他们的狗狗或宠物前来鹏歌广场玩耍，这个广场紧邻孔代湖。我们也能和这些可爱的动物们一起玩耍，简直是爱宠人士的乐园。

Ang Kaew CMU。

หมูบ้านแม่กำปอง หมู่บ้านเล็กๆกลางภูเขามีเอกลักษณ์ทั้งวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม กล่าวคือ มีวิถีชีวิตที่ผูกพันอยู่กับป่า อยู่แบบเกื้อกูลและพึ่งพา ยึดถือประเพณีดั้งเดิม และมีวัฒนธรรมด้านภาษาโดยใช้ภาษาคำเมืองเป็นหลัก ชุมชนมีภูมิประเทศที่สวยงาม และมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ที่เป็นเสน่ห์ของชุมชน

Mae Kampong Village A small village in the middle of the mountain has a unique way of life, tradition, culture, that is, a way of life that is bound to the forest. Living supportive and dependent stick to tradition And there is a language culture based on the Kham Mueang language. The community has a beautiful landscape. and the integrity of nature that is the charm of the community

Mae Kampong

แม่กำปอง

湄甘榜村半山腰的一个小村落，有着独特的生活方式、传统、文化，也就是与森林息息相关的生活方式。生活支持和依赖坚持传统并且有一种以康孟语为基础的语言文化。社区风景秀丽。和大自然的完整性这就是社区的魅力

夜甘榜

จุดเช็คอินขึ้นชื่อของเชียงใหม่ ตรงบริเวณนี้มีร้านขายผลิตภัณฑ์หัตถกรรมสานๆ กระเป๋าสาน ตะกร้าสาน สิ่งของเครื่องใช้สานมากมาย ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวจีนและเกาหลีแวะมาถ่ายรูปบริเวณแยกนี้เป็นจำนวนมาก ใครที่กำลังหาของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน หวายคุณภาพดีก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก

A famous check-in spot in Chiang Mai, this area is filled with shops selling woven handicrafts, including bags, baskets, and various woven items. Nowadays, many Chinese and Korean tourists stop by this intersection to take photos. If you are looking for souvenirs to bring back home, high-quality rattan items are a great option.

Honey Wai (Chai Moi)

หวายน้ำผึ้ง(ช่ายม่อย)

清迈著名的打卡点，这个地区有许多手工编织制品的商店，出售编织包、编织篮和各种编织用品。如今，许多中国和韩国的游客来到这个十字路口拍照。如果你正在寻找一些优质的手信，编织的柳条制品也是一个不错的选择。

ปางช้าง

วันที่ 2กับห้าคน

วัดอุโมงค์ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเชียงใหม่ที่ไม่ควรพลาด ภายในดูลึกลับน่าค้นหา และมีสวยงามในแบบที่ดูแปลกตา วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเชียงใหม่ และตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรืออยู่ในซอยหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Wat Umong is another must-visit attraction in Chiang Mai. Its interior offers a mysterious atmosphere that invites exploration, combined with a unique beauty that is visually striking. Wat Umong, also known as Buddha Forest, is located to the west of the city, at the foothills of Doi Suthep, in Mueang District, Chiang Mai Province. It is situated south of Chiang Mai University, tucked away in a lane behind the university.

Wat Umong Suan Phuttham

วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม

乌蒙寺是清迈不容错过的另一个旅游胜地。寺内环境神秘且引人探寻，展现出一种独特的美感。乌蒙寺（即佛教公园）位于清迈市的西部，坐落于素贴山的山脚下，位于清迈大学南部，或者说在清迈大学后面的巷子里。

Wat Umong Suan Phuttham寺

อ่างกา

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ถ้าไปเที่ยวในช่งหน้าฝนจะฟินมาก ท่ามกลางสายฝนและภูเขาที่เขียวขจี

Doi Inthanon National Park, Chom Thong District, Chiang Mai Province If traveling during the rainy season, it will be very satisfying. In the middle of the rain and green mountains

Doi Inthanon

ดอยอินทนนท์

Doi Inthanon 国家公园，清迈府 Chom Thong 区如果在雨季出行，会很满足。在雨水和青山之中

茵他侬山

ในช่วงหน้าหนาวนี้หมอกเยอะมาก บรรยากาศดี ทุ่งดอกไม้โดยรอบสวย พระมหาธาตุนภเมทนีดลมีฐานเป็นรูป 12 เหลี่ยม มีระเบียงแก้วโดยรอบเป็น 2 ระดับ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ 

สร้างขึ้นโดยกองทัพกอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย โดยพระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบเมื่อปี พ.ศ. 2530

During this winter season, the area is shrouded in thick fog, creating a wonderful atmosphere. The surrounding flower fields are stunning. The Phra Mahathat Nopphamatanee in Doi Inthanon has a 12-sided base with glass corridors on two levels, serving as the resting place for sacred relics.

This magnificent structure was built by the Royal Thai Air Force in collaboration with the people of Thailand, dedicated to His Majesty King Bhumibol Adulyadej, the ninth monarch of the Chakri dynasty, in honor of his 60th birthday celebration in 1987.

Phra Mahathat Naphamethaneedon and Phra Mahathat Naphaphon Bhumisiri

พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ

在这个冬季，雾气弥漫，氛围宜人。周围的花田美丽动人。玛哈塔托尖娜梅登寺（พระมหาธาตุนภเมทนีดล）有一个12边形的基础，周围环绕着两层的玻璃走廊，是供奉佛陀舍利的地方。

这是由泰国空军与普通民众共同建造的。玛哈塔托尖娜梅登寺是为了庆祝皇太子普密蓬·阿杜德（泰国第九任国王）五十岁生日而建造的，完成于1987年。

Phra Mahathat Naphamethaneedon 和 Phra Mahathat Naphaphon Bhumisiri

ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า น้ำตกตาดฆ้องโยง เกิดจากลำห้วยแม่กลาง อยู่ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 22 ถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูงประมาณ 70-80 เมตร สายน้ำไหลตกจากหน้าผาลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ในยามที่แสงอาทิตย์ส่องกระทบละอองน้ำจะปรากฏสายรุ้งงดงามขึ้นเหนือธารน้ำ ตรงข้ามมีหน้าผาสูงชัน เรียกว่า ผามอแก้ว หรือภายหลังเรียกว่า ผาแว่นแก้ว

Located in Doi Inthanon National Park, this waterfall is also known as Tad Khong Yong. It originates from the Mae Klang stream and is situated approximately 22 kilometers along the Chom Thong-Doi Inthanon Road. This majestic waterfall stands about 70-80 meters tall, with water cascading down the cliff into the pool below. The waterfall flows year-round, and during sunny days, the sunlight hits the water droplets, creating a stunning rainbow above the stream. Opposite the waterfall, there is a steep cliff known as Maw Kaew, which is often referred to as Waen Kaew.

Wachirathan Waterfall (Doi Inthanon National Park)

น้ำตกวชิรธาร (อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์)

位于道印通国家公园内，另一种名称叫做“打光滩瀑布”。它源自梅空溪，距离青铜-道印通公路约22公里，是一条大型瀑布，高约70-80米，水流从悬崖倾泻而下，注入下面的水潭。这里的水流全年不断，每当阳光照射到水雾上时，便会在水流上方显现出美丽的彩虹。对面是陡峭的悬崖，被称为“玛卡山”，后来又改名为“圆眼山”。

Wachirathan 瀑布（茵他侬国家公园）

ที่พัก

5คนงงๆ

วัดสันป่ายางหลวง เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งของจังหวัดลำพูน มี "วิหารพุทธรัตนมหานทีศรีหริภุญชัย" หรือ "วิหารพระเขียวโขง" ซึ่งแกะสลักลวดลายปูนปั้นไว้อย่างวิจิตรงดงาม เป็นที่ประดิษฐาน "พระหยกเขียว" ซึ่งนำมาจากแม่น้ำโขง ทริปไนซ์เดย์ชวนทุกคนไปสักการะพระโขงเขียวหรือพระหยกเขียวกันครับ ภายในวัด พระอุโบสถ และวิหาร มีการแกะสลักลวดลายปูนปั้นอย่างงดงามน่าชื่นชม

Wat San Pa Yang Luang is another ancient temple in Lamphun province, featuring the "Vihara Phuttharatana Mahānathi Sri Hariphunchai," also known as the "Vihara of the Green Jade Buddha." This vihara showcases intricate stucco carvings that are truly exquisite. It houses the revered "Green Jade Buddha," which was brought from the Mekong River. Nice Day Trip encourages everyone to come and pay homage to the Green Jade Buddha. Inside the temple, both the ubosot and the vihara boast stunning stucco carvings that are a joy to admire.

Wat San Pa Yang Luang

วัดสันป่ายางหลวง

在北泰国的兰帕衮省，有一座古老的寺庙，名为“山派杨隆寺”。寺内的“佛法兰玛哈那提寺”或称为“绿孔寺”，其精美的浮雕工艺令人叹为观止。这里供奉着“绿玉佛”，这尊佛像是从湄公河带来的。Nice Day旅行团邀请大家一同前来朝圣，拜见这尊绿孔佛或绿玉佛。在寺庙内，主殿和佛殿的浮雕装饰更是巧夺天工，令人陶醉。

桑巴央龙寺

วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร เป็นปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนานตั้งอดีตนับเวลามากกว่าพันปี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 150 เมตร มีถนนล้อมรอบสี่ด้าน คือ ถนนอัฏฐารสทางทิศเหนือ ถนนชัยมงคลทางทิศใต้ ถนนรอบเมืองทาง ทิศตะวันออก นอกจากนั้นยังเป็นองค์พระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีระกา 

พระบรมธาตุหริภุญไชยภายในบรรจุพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ ประดิษฐานในพระเจดีย์ ประกอบด้วยฐานปัทม์ แบบฐานบัวลูกแก้ว ย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม สูง 25 วา 2 ศอก ฐานกว้าง 12 วา 2 ศอก 1 คืบ มีสัตติ- บัญชร (รั้วเหล็กและทองเหลือง) 2 ชั้น สำเภาทอง ประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือ และทิศใต้ มีซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม และหอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ บรรจุพระพุทธรูป นั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป และแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

Wat Phra That Hariphunchai is an important religious site in northern Thailand, a sacred landmark that has been associated with the city of Lamphun for over a thousand years. Located in the heart of Lamphun, it is just about 150 meters from the provincial hall and is surrounded by roads on all four sides: Atharas Road to the north, Chaimongkol Road to the south, and the city wall road to the east. Additionally, it is considered the birthplace of the auspicious year for those born in the year of the rooster.

The Phra Boromathat Hariphunchai houses sacred relics, including a lock of hair from the Buddha, which is enshrined in a golden casket located within the stupa. The stupa features a lotus base styled with a bulbous lotus petal, transitioning into three circular tiers that support the bell-shaped structure. The structure stands at a height of 25 "wa" (a traditional Thai measurement unit) and has a width of 12 "wa" and 1 "khu" (1 "khu" = 1 inch). It is adorned with a "satti-banchan" (iron and brass railing) consisting of two layers, with golden vessels placed at the outer railing on both the north and south sides.

The stupa is embellished with guardian angel niches and umbrellas at each of the four corners, along with a tower on each side, totaling four towers, each housing a seated Buddha statue. Additionally, there are lanterns and altars installed for the general public to pay their respects, making it a significant center for Buddhist worship.

Wat Phra That Hariphunchai Woramahawihan

วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร

位于泰国北部的希里普万寺是一个重要的宗教圣地，伴随着兰颂市走过了长达千年的历史。这座寺庙位于兰颂市中心，距离省政府大楼约150米，四周被街道环绕，北侧是阿塔拉路，南侧是胜利路，东侧是环城路。此外，它也是公鸡年出生者的守护神圣地。

寺内的舍利塔存放着佛陀的舍利，放置在金色的金盒中，位于一座由莲花台基座、圆形的三层基座以及钟形结构组成的宝塔中。宝塔的高度达到25瓦2肘，基座宽度为12瓦2肘1线，周围设有两层金属和铜制的栅栏。外层的栅栏北南两侧各有一艘金船。塔的四个角各有一个神像亭和伞盖，并在每一面设有四座佛龛，供奉着坐姿佛像。此外，寺内还设置了灯笼和供奉台，以供信徒们进行崇拜和礼拜。

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย จังหวัดลำพูน เป็นสถานที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่ได้มาจากวัดสำคัญและแหล่งโบราณคดีในจังหวัดลำพูน จำนวนกว่า 3,000 ชิ้น ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นที่รวบรวมและจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุที่มีอยู่มากมายในภาคเหนือของประเทศไทยอีกแห่งหนึ่ง โดยมหาอำมาตย์โท พระยาราชนกุลวิบูลย์ภักดี (อวบ เปาโรหิต) สมุหเทศาภิบาล มณฑลพายัพ เป็นผู้ริเริ่มการนี้มาตั้งแต่พ.ศ. 2470 

ซึ่งในช่วงเวลานั้น เริ่มมีการมองเห็นคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมมากขึ้น กิจการพิพิธภัณฑสถาน ซึ่งเริ่มจากในพระราชสำนักในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จนกระทั่งได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับประชาชนขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อพ.ศ. 2417 มีผลให้เกิดพิพิธภัณฑสถานอื่นๆขึ้นอีกหลายแห่งในประเทศ รวมทั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย แห่งนี้

ค่าธรรมเนียมเข้าชม
ชาวไทย  คนละ  20  บาท
ชาวต่างชาติ คนละ  100  บาท

The National Museum, Hariphunchai, Lamphun, is a place to collect antiques and objects that are derived from an important temple and archaeological sites in Lamphun. The amount of more than 3,000 pieces is established to collect and exhibit existing arts. Many in the northern part of Thailand By Mahamat Master Phraya Rajanakun Wibunphakdi (Plump Pao Root), Samui, Phaibal, Payap, this innovator since 1991 2470
 
 Which at that time Began to see more value of cultural heritage Museum Which began from the royal ceremony in the King Until it was opened as a museum for the first time in the His Majesty the King in 1974, resulting in many other museums in the country. Including this National Museum, Horiphunchai
 
 Access fee
 Thai people, 20 baht per person
 100 baht different foreigners

National Museum

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย

Hariphunchai 国家博物馆，这是另一个收集从南奔府重要寺庙和考古遗址获得的古董和文物的地方。设置了 3,000 多件作品来收集和展示泰国北部的各种艺术古物。 by Master Pasha Phraya Ratchanakunwiboonphakdi (Aww Paorohit)，巴亚普省 Samuthaphiban，自公元前那一年开始这项活动，1927年。在那段时间开始看到文化遗产的价值更多博物馆事务始于Mongkut国王统治时期的宫廷直到1874年朱拉隆功国王统治时期首次作为公众博物馆开放，导致该国许多其他博物馆。包括哈里朋猜国家博物馆。
入场费
泰国人每人20泰铢/人
外国人：100泰铢/人

哈里彭猜国家博物馆

วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยล้านนาไทย ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดกู่กุด บางแห่งก็ว่าพระนางจามเทวีทรงสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1292 โดยใช้ช่างฝีมือชาวขอม บ้างก็ว่าเจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ ราชโอรสของพระนางจามเทวี ได้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิของพระนางลักษณะองค์พระเจดีย์ที่ประดิษฐานในวัด เป็นสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรอยู่เป็นชั้นๆ

ต่อมาจะเป็นสมัยใดไม่ทราบแน่ชัดยอดพระเจดีย์ได้หักหายไป ชาวบ้านจึงเรียกว่า กู่กุด พระเจดีย์องค์นี้มีชื่อเป็นทางการว่า พระเจดีย์สุวรรณจังโกฎ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีรัตนเจดีย์ ตั้งอยู่ทางขวามือของวิหาร สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระยาสรรพสิทธิ์เมื่อปีพ.ศ. 1298 พระนางจามเทวีนำช่างละโว้ (ปัจจุบันคือ จังหวัดลพบุรี) ไปสร้างพระเจดีย์สุวรรณจังโกฎ เป็นพระเจดีย์สี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดียทุกๆด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรศิลปกรรมของลพบุรีมีพระพุทธรูปยืนอยู่ในซุ้มพระทั้งสี่ด้านด้านละ 15 องค์ รวม 60 องค์ ภายในบรรจุอัฐของพระนางจามเทวี ภายในพระเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี เดิมมียอดพระเจดีย์หุ้มด้วยทองคำ

Cham Devi Temple, Lamphun Province is an important old temple since Thai times. The villagers called Ku Kut Wat, some of the Queen Jam Devi were built in 1292 using Khmer craftsmen. Some say that Anantyot and Chao turned The son of Phra Nang Jam Devi Has been built to contain the bones of the nature of the pagoda that is enshrined in the temple Is a Buddhist squares in India Each side has a Buddha image.
 
 Later, it would be unknown. The pagoda had disappeared. The villagers therefore called Ku Kut. This pagoda has the official name that Phra Chedi Suwan Jangkok In addition, the temple also has Ratanady. Located on the right of the temple Built around the 17th century by Phraya Sommasit in the year 1298 Phra Nang Cham Devi led the technician (currently Lopburi) to build the Suwan Jangkok Is a Buddhist Square Pagoda in India, every aspect, there is a Buddha statue, Pang Pang blessing the blessing of Lopburi's baptism. There is a Buddha image standing in the four monks on the four sides. Inside Phra Pagoda Packing the bones of Phra Nang Cham Devi Originally had the pagoda covered with gold

Chamti Temple

วัดจามเทวี

Wat Cham Thewi，南奔府，是自兰纳泰时期以来的重要古庙。当地人称它为 Wat Ku Kut，有人说 Phra Nang Chamadevi 是由高棉工匠于 1292 年建造的。有人说阿南塔约特和马哈约特查玛德维王后的儿子它的建造是为了容纳供奉在寺庙中的帕南佛塔的骨灰。它是印度菩提伽耶风格的广场。每一面都有一层以加持姿势站立的佛像。

几日后，塔顶已破。因此村民们称它为Ku Kut。这个佛塔有一个正式的名字。苏万昌果塔此外，寺庙内还有一座 Ratana Chedi。它位于寺庙的右手边。大约在公元 17 世纪由 Phraya Sanpasit 建造。 1298 Phra Nang Chamadevi 带领工匠 Lawo（今华富里）在 Suwanchangkot 建造了一座宝塔。它是印度菩提迦耶风格的长方形宝塔，四面立佛，四面立拱，共60尊佛像图片。宝塔内装有Phra Nang Chamadevi的骨灰。最初，佛塔的顶部覆盖着金色。

Chamadevi寺庙

พระนางจอมเทวีเป็นเกษัตริย์ผู้สิริโฉมงดงามตามประวัติศาสตร์ ท่านเป็นวีรสตรีที่กล้าหาญเป็นนักพัฒนาเมืองและอุปถัมภ์ศาสนา ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองลำพูนเลยก็ว่าได้ครับ นักท่องเที่ยวหากแวะขึ้นเหนือผ่านเมืองลำพูน ถ้ามีโอกาสแนะนำให้แวะสักการะท่านสักหน่อยครับ 

อนุสาวรีย์พระนางจามเทวีนี้จึงสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางจามเทวี องค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย พระนางเป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม ความสามารถและกล้าหาญ ได้นำพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่ในดินแดนแถบนี้จนมีความรุ่งเรืองสืบมาจนถึงปัจจุบัน

Queen Chao Kaeo is a historically celebrated monarch known for her beauty and courage. She was a heroic figure, a city developer, and a patron of religion, marking her as a significant landmark in the city of Lamphun. For travelers passing through the northern region, I highly recommend taking a moment to pay respects to her.

The Queen Cham Thewi Monument was erected as a tribute to Queen Cham Thewi, the first monarch of the Haripunjaya Kingdom. She was a philosopher of great virtue, skill, and bravery. Her efforts in promoting Buddhism and cultural arts have contributed to the prosperity of this area, which continues to flourish to this day.

TripNiceDay

เพชรผ่อน

มุกดาไม่หารนะ

มุกดาไม่หารนะ

มุกดาไม่หารนะ

ไปกันวันไฟดับ

มิ้งและที่รัก

วันที่ 2กับห้าคน

5คนงงๆ

คนเดียวเที่ยวได้

该用户尚未创建任何照片

该用户尚未创建任何地点

该用户尚未创建任何博客