รีวิวเขาค้อ 2025: ฉบับเพื่อนซี้พาลุย 10 ที่เที่ยวอัปเดตล่าสุด ห้ามพลาด!

สวัสดีเพื่อนๆ นักเดินทางทุกคน! ในฐานะคนที่รักการออกเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ วันนี้จะขอมาแชร์ประสบการณ์สดๆ ร้อนๆ กับทริป เขาค้อ ที่เพิ่งไปอัปเดตมาเมื่อเร็วๆ นี้ บอกเลยว่าปี 2025 นี้ เขาค้อ มีอะไรใหม่ๆ เด็ดๆ เพียบ! ใครกำลังวางแผนไปเที่ยวอยู่ล่ะก็… เซฟบทความนี้เก็บไว้ในลิสต์ได้เลย รับรองว่าไม่มีผิดหวัง เตรียมเก็บกระเป๋าแล้วตามเราไปดู 10 จุดเช็คอิน คาเฟ่ ที่พัก และทะเลหมอกสุดปังที่ เขาค้อ กันเลย!

ดินแดนแห่งขุนเขาและสายหมอกอย่าง เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของใครหลายคนเสมอ ไม่ว่าจะไปฤดูไหน เขาค้อ ก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวที่อากาศเย็นสบายและมีโอกาสเจอทะเลหมอกหนาๆ แบบสะใจ แต่เอาเข้าจริง เขาค้อ ก็เที่ยวได้ตลอดทั้งปีนั่นแหละ!

Part 1: จุดเช็คอินต้องโดน ถ่ายรูปสวยปัง!

มา เขาค้อ ทั้งที จะไม่มีรูปสวยๆ กลับไปอวดเพื่อนได้ยังไง! เราคัดมาให้เน้นๆ กับ 3 แลนด์มาร์กที่ไม่ว่าใครก็ต้องไปเช็คอิน

1. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว: อลังการงานสร้างกลางหุบเขา

เริ่มต้นทริปเพื่อความเป็นสิริมงคลกันที่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ที่เที่ยวยอดฮิตตลอดกาลของ เขาค้อ แค่เห็นภาพเจดีย์ที่ประดับประดาด้วยถ้วยกระเบื้องและหินสีสันสดใส ตัดกับพื้นหลังที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนก็ต้องร้องว้าวแล้ว จุดเด่นของที่นี่คือ "องค์พระพุทธเจ้า 5 พระองค์" สีขาวองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานเรียงกันอย่างสง่างาม บรรยากาศภายในวัดเงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์มาก เหมาะกับการมาไหว้พระขอพรและชมความงามของสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร แนะนำให้มาช่วงเช้าๆ อากาศจะดีมาก หรือถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นหมอกจางๆ คลอเคลียอยู่รอบๆ วัดด้วยนะ

ข้อควรรู้: การแต่งกายควรสุภาพ และเนื่องจากทางขึ้นค่อนข้างชัน ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง

2. ทุ่งกังหันลม เขาค้อ: แลนด์มาร์กสุดชิค วิวหลักล้าน

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของ เขาค้อ ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ทุ่งกังหันลม ภาพกังหันลมยักษ์สีขาว 24 ต้นที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขากว้างใหญ่เป็นอะไรที่อลังการและสวยงามมาก นอกจากจะมาถ่ายรูปสวยๆ กับกังหันลมแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำอีกเพียบ! ไฮไลท์เด็ดที่ต้องลองคือ "ฟอร์มูล่าม้ง" หรือรถเลื่อนไม้ที่ให้เราได้ซิ่งลงจากเนินเขา บอกเลยว่าหวาดเสียวแต่สนุกสุดๆ นอกจากนี้ยังมีชิงช้าม้งให้นั่งโล้ชมวิว และสวนดอกไม้สวยๆ ตามฤดูกาลให้ได้ถ่ายรูปกันเพลินๆ อีกด้วย

ค่าบริการ: มีค่ารถรางสำหรับเข้าไปชมด้านใน และมีค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมต่างๆ แยกต่างหาก

ภาพจาก Facebook page:ม่อนแกะ เขาค้อ

3. ม่อนแกะ เขาค้อ: ฟาร์มแกะสุดคิวท์บนเนินเขา

ใครจะไปคิดว่ามา เขาค้อ จะได้เจอฟาร์มแกะน่ารักๆ แบบนี้! ม่อนแกะ เขาค้อ เป็นที่เที่ยวเปิดใหม่ที่กำลังมาแรงสุดๆ ที่นี่เราจะได้ใกล้ชิดกับน้องแกะขนปุยสายพันธุ์คอร์ริเดลที่เดินเล่นกันอย่างอิสระในทุ่งหญ้าสีเขียวบนเนินเขา บรรยากาศดีมาก เหมือนได้วาร์ปไปฟาร์มต่างประเทศเลยทีเดียว เราสามารถซื้ออาหารให้น้องแกะได้ น้องๆ เชื่องและเป็นมิตรมาก นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่เล็กๆ สไตล์โรงนาให้นั่งพักจิบเครื่องดื่มชมวิวภูเขาแบบ 360 องศาอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งจุดที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กๆ รับรองว่าถูกใจแน่นอน

ค่าเข้าชม: มีค่าเข้าชม ซึ่งสามารถนำไปเป็นส่วนลดค่าเครื่องดื่มได้

Part 2: คาเฟ่ห้ามพลาด จิบกาแฟ แลวิวหมอก

มาเที่ยว เขาค้อ ทั้งที จะไม่แวะคาเฟ่สวยๆ ได้ยังไง! ที่นี่มีคาเฟ่ดีๆ ให้เลือกเยอะมาก แต่เราขอคัดมา 2 ร้านเด็ดที่วิวปังและบรรยากาศดีสุดๆ

4. Pino Latte Resort & Cafe: คาเฟ่หลักร้อย วิวหลักล้าน

ยกให้เป็นคาเฟ่ที่วิวสวยที่สุดแห่งหนึ่งใน เขาค้อ เลยก็ว่าได้! Pino Latte ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ทำให้สามารถมองเห็นวิววัดพระธาตุผาซ่อนแก้วได้อย่างชัดเจน ตัวร้านออกแบบมาอย่างสวยงาม มีระเบียงกว้างให้นั่งจิบกาแฟชมวิวภูเขาและทะเลหมอกแบบพาโนรามา ที่นี่มีบริการทั้งเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และอาหาร เมนูแนะนำที่ต้องลองคือ Pino Latte ซึ่งเป็นกาแฟซิกเนเจอร์ของร้าน และเค้กต่างๆ ที่อร่อยและหน้าตาน่าทานมาก ใครเป็นสายคาเฟ่และชอบถ่ายรูป บอกเลยว่ามาร้านนี้ได้รูปสวยๆ กลับไปเพียบแน่นอน

เคล็ดลับ: แนะนำให้มาช่วงเช้าเพื่อลุ้นชมทะเลหมอก หรือช่วงเย็นเพื่อชมพระอาทิตย์ตกก็โรแมนติกไปอีกแบบ

5. ไฮเดรนเยีย คาเฟ่ เขาค้อ: ทุ่งดอกไม้บานสะพรั่งกลางขุนเขา

สำหรับสายหวานและคนรักดอกไม้ต้องเทใจให้ที่นี่เลย! ไฮเดรนเยีย คาเฟ่ ไม่ได้เป็นแค่คาเฟ่ธรรมดา แต่เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่บนเนินเขา ที่นี่ปลูกดอกไม้เมืองหนาวหมุนเวียนกันไปตลอดทั้งปี โดยเฉพาะทุ่งดอกไฮเดรนเยียและดอกมาร์กาเร็ตสีม่วงที่บานสะพรั่งเต็มภูเขาเป็นอะไรที่สวยงามอลังการมาก เราสามารถเดินลงไปถ่ายรูปในทุ่งดอกไม้ได้อย่างจุใจ มีมุมสวยๆ ให้เลือกถ่ายเพียบ หลังจากถ่ายรูปจนเหนื่อยแล้ว ก็สามารถมานั่งพักจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ที่คาเฟ่ได้ บัตรค่าเข้าชมยังสามารถนำมาเป็นส่วนลดค่าเครื่องดื่มได้อีกด้วยนะ

ค่าเข้าชม: มีค่าบริการเข้าชมสวนดอกไม้

Part 3: ที่พักสุดฟิน ตื่นมาเจอหมอก

การเลือกที่พักดีๆ ก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการมาเที่ยว เขาค้อ เพราะการได้ตื่นนอนมาแล้วเจอกับทะเลหมอกสวยๆ อยู่ตรงหน้า เป็นอะไรที่ฟินสุดๆ เราจึงคัดเลือกที่พัก 3 สไตล์มาให้เพื่อนๆ ได้ลองพิจารณา

ภาพจากtheblueskyresort.com

6. The Blue Sky Resort Khao Kho: พักผ่อนสไตล์ยุโรปกลางดินแดนแห่งเทพนิยาย

อยากสัมผัสบรรยากาศเหมือนไปเที่ยวยุโรปโดยไม่ต้องบินไปไกลต้องมาที่นี่! The Blue Sky Resort Khao Kho ได้รับการออกแบบในสไตล์หมู่บ้านชนบทของอังกฤษ ตัวอาคารและห้องพักสวยงามน่ารัก มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก จุดเด่นของที่นี่คือสวนสวยสไตล์อังกฤษที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด และวิวปราสาทที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางขุนเขา ในช่วงเช้ามีโอกาสเห็นทะเลหมอกบางๆ ลอยอยู่รอบๆ รีสอร์ท ทำให้บรรยากาศโรแมนติกและเหมือนอยู่ในดินแดนแห่งเทพนิยายจริงๆ

ห้องพัก: มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งบนอาคารและแบบวิลล่า

7. ภูแก้วพีค และ ภูแก้วรีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ พาร์ค: สนุกครบรส พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ

สำหรับใครที่มากันเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนและมองหาที่พักที่มีกิจกรรมครบครัน ภูแก้วรีสอร์ท คือคำตอบ! ที่นี่เป็นมากกว่าที่พัก เพราะมีโซนแอดเวนเจอร์ พาร์ค ที่มีเครื่องเล่นสนุกๆ ให้ทำมากมาย ส่วนของที่พักก็มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่ห้องพักบนอาคารไปจนถึงบ้านพักเป็นหลังที่สามารถรองรับได้ทั้งกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ และที่ไม่ควรพลาดคือ ภูแก้วพีค คาเฟ่และจุดชมวิวที่สูงที่สุดของรีสอร์ท สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของ เขาค้อ ได้แบบพาโนรามา 180 องศาเลยทีเดียว

8. พิโน่ ลาเต้ รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล: นอนชมดาว ตื่นมาดูหมอก

นอกจากจะเป็นคาเฟ่ชื่อดังแล้ว Pino Latte ยังมีบริการที่พักในรูปแบบรีสอร์ทและโรงแรมอีกด้วย จุดเด่นของที่พักที่นี่คือทำเลที่ตั้งที่สามารถมองเห็นวิววัดพระธาตุผาซ่อนแก้วและทะเลหมอกได้จากห้องพักเลย ห้องพักถูกออกแบบมาอย่างทันสมัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การได้นอนพักที่นี่ ตื่นเช้ามาจิบกาแฟที่ระเบียงพร้อมกับชมวิวสายหมอกที่ค่อยๆ ไหลผ่านหุบเขา เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจและเติมพลังชีวิตได้ดีสุดๆ

Part 4: จุดชมทะเลหมอกสุดอลังการ

มาถึงไฮไลท์สำคัญของการมาเยือน เขาค้อ นั่นก็คือการล่าทะเลหมอก! เราขอแนะนำ 2 จุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด

ภาพจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบูรณ์

9. จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ: ชมทะเลหมอก 360 องศา

หากพูดถึงจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งบน เขาค้อ จะต้องมีชื่อของ เขาตะเคียนโง๊ะ อยู่ในลิสต์แน่นอน จุดเด่นของที่นี่คือสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา ทำให้มีโอกาสเห็นทะเลหมอกได้รอบทิศทาง ในยามเช้าเราจะได้เห็นภาพพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกที่ลอยต่ำๆ ปกคลุมหุบเขาเบื้องล่าง และยังสามารถมองเห็นเขาปู่เขาย่าที่มีรูปร่างคล้ายภูเขาไฟฟูจิได้จากจุดนี้อีกด้วย สำหรับสายแคมป์ปิ้ง ที่นี่ยังมีลานกางเต็นท์ให้บริการอีกด้วย การได้นอนดูดาวตอนกลางคืนและตื่นมาเจอทะเลหมอกในตอนเช้าเป็นอะไรที่สุดยอดมาก

คำแนะนำ: ควรมาถึงตั้งแต่เช้ามืดเพื่อจับจองพื้นที่และรอชมแสงแรกของวัน

10. จุดชมวิวทะเลหมอกบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเขาค้อและไปรษณีย์เขาค้อ

เป็นอีกหนึ่งจุดชมทะเลหมอกยอดนิยมและเข้าถึงง่าย สามารถมองเห็นทะเลหมอกผืนใหญ่ที่เกิดจากอ่างเก็บน้ำรัตนัย ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งร้านค้าและห้องน้ำ เป็นจุดที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวที่จะมาดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้าและชมความงดงามของทะเลหมอก เขาค้อ

แนะนำร้านเด็ดในเพชรบูรณ์: เติมพลังก่อน-หลังเที่ยวเขาค้อ

หลังจากเต็มอิ่มกับบรรยากาศบน เขาค้อ แล้ว ขากลับอย่าลืมแวะหาของอร่อยในตัวเมืองเพชรบูรณ์กันด้วยนะ!

ภาพจาก Facebook page:𝐂𝐇𝐎𝐎 𝐂𝐀𝐅𝐄

• สำหรับสายแซ่บ:
  • ร้านยำบ้านเพื่อน: ร้านยำรสเด็ดในตัวเมือง มีเมนูให้เลือกหลากหลายทั้งยำและส้มตำ วัตถุดิบสดใหม่ รสชาติจัดจ้านถึงใจ
  • ธิดาปลาร้าหอม: ร้านอาหารอีสานที่มีเมนูหลากหลาย โดยเฉพาะส้มตำที่รสชาติกลมกล่อมและสมูทตี้อะโวคาโดที่ไม่เหมือนใคร
• สำหรับสายคาเฟ่ในเมือง:
  • Seal Coffee House: ร้านกาแฟบรรยากาศดี ตกแต่งด้วยโทนสีขาวสบายตา มีเครื่องดื่มและเบเกอรี่ให้เลือกหลากหลาย
  • Choo Cafe at Phetchabun: โฮมคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น นำชั้นล่างของบ้านมาทำเป็นคาเฟ่ มีทั้งเครื่องดื่มและอาหารให้บริการในราคาสบายกระเป๋า
• สำหรับมื้อจัดเต็ม:
  • ครัวเกษตรเพชรบูรณ์: ร้านอาหารไทยบรรยากาศดี มีเมนูให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับการมาทานกับครอบครัว
  • แคงชาม (Kangcham): ร้านอาหารที่มีเมนูหลากหลาย บรรยากาศน่านั่ง เหมาะสำหรับทุกมื้อ

หวังว่ารีวิว เขาค้อ 2025 ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวกันนะ! เขาค้อ ยังมีที่เที่ยวและของกินอร่อยๆ อีกมากมายรอให้ทุกคนไปสัมผัสด้วยตัวเอง ออกไปใช้ชีวิตและเก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆ กันนะ