เปิดประตูสู่ดินแดนลี้ลับ "ถ้ำนาคา" จ.บึงกาฬ: อลังการหินพญานาคและเส้นทางเดินป่าสุดมหัศจรรย์
สวัสดีเพื่อนๆ นักเดินทางสายลุยและสายมูทุกคน! วันนี้เราจะพาทุกคนไปเยือนหนึ่งในสถานที่ที่กำลังเป็นกระแสและได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม นั่นก็คือ ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ ที่เที่ยว Unseen ที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงาม แต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวตำนานและความเชื่อที่น่าค้นหา ใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ท้าทายและเต็มไปด้วยมนต์ขลัง บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด!
ถ้ำนาคา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ บึงกาฬและนครพนม แต่ตัวถ้ำนาคานั้นอยู่ในฝั่งของอำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ สิ่งที่ทำให้ ถ้ำนาคา โดดเด่นและเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศก็คือ ลักษณะของหินทรายขนาดใหญ่ที่มีรอยแตกบนพื้นผิว ซึ่งในทางธรณีวิทยาเรียกว่า "ซันแครก" (Sun Crack) ปรากฏการณ์นี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว ทำให้หินเกิดการขยายและหดตัวสลับกันจนเกิดเป็นลวดลายคล้ายเกล็ดของงูขนาดมหึมา ประกอบกับรูปร่างของหินที่โค้งงอ ทำให้ดูคล้ายกับพญานาคที่กำลังขดตัวอยู่อย่างน่าอัศจรรย์
ภาพจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี
ไขตำนานความเชื่อแห่งถ้ำนาคา
แน่นอนว่าเมื่อมีลักษณะทางกายภาพที่น่าทึ่งขนาดนี้ ย่อมมาพร้อมกับตำนานและความเชื่อที่เล่าขานสืบต่อกันมา โดยตำนานที่โด่งดังที่สุดของ ถ้ำนาคา คือเรื่องราวของ "เจ้าปู่อือลือราชา" ผู้ถูกสาปให้เป็นพญานาคเฝ้าถ้ำแห่งนี้ชั่วนิรันดร์ เล่ากันว่าท่านจะพ้นคำสาปได้ก็ต่อเมื่อมีการสร้างเมืองขึ้นใหม่ในบริเวณนี้ ซึ่งประจวบเหมาะกับการที่จังหวัดบึงกาฬได้รับการจัดตั้งเป็นจังหวัดใหม่ครบรอบ 10 ปี ในช่วงเวลาเดียวกับการค้นพบ ถ้ำนาคา พอดี จึงยิ่งเสริมสร้างความเชื่อและความศรัทธาให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีตำนานอื่นๆ อีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถานที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเมืองลับแลของชาวบังบด หรือดินแดนแห่งเมืองพญานาคราช
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางสู่ถ้ำนาคา
การเดินทางไปพิชิต ถ้ำนาคา นั้นต้องอาศัยการเตรียมตัวที่ดีพอสมควร เพราะเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่รับรองว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อยแน่นอน!
- การเดินทาง: สามารถเดินทางโดยเครื่องบินไปลงที่อุดรธานีหรือนครพนม แล้วเช่ารถขับต่อไปยังอุทยานแห่งชาติภูลังกา สำหรับใครที่นั่งรถโดยสารมา แนะนำให้ลงที่อำเภอบึงโขงหลงซึ่งจะอยู่ใกล้ทางขึ้นถ้ำนาคามากกว่า ควรปักหมุดไปที่ "น้ำตกตาดวิมานทิพย์" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินขึ้นเขา
- การจองคิว: ในปัจจุบัน (ข้อมูลปี 2567) นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปได้เลย (Walk-in) โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ แล้ว แต่เพื่อความแน่นอนโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเพจของอุทยานแห่งชาติภูลังกาอีกครั้ง
- ช่วงเวลาที่เหมาะสม: เวลาเปิดให้ขึ้นเขาคือตั้งแต่ 07.00 - 14.00 น. แนะนำให้เริ่มเดินขึ้นในช่วงเช้าเพื่อจะได้ไม่ร้อนมากนัก โดยทั่วไปแล้ว ถ้ำนาคา จะปิดพักฟื้นฟูธรรมชาติในช่วงเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนของทุกปี
- ค่าธรรมเนียม: มีค่าเข้าอุทยานสำหรับผู้ใหญ่ 20 บาท และเด็ก 10 บาท บวกกับค่าประกันชีวิตอีกคนละ 10 บาท
- ไกด์นำทาง: การขึ้น ถ้ำนาคา จำเป็นต้องมีไกด์ท้องถิ่นนำทางเสมอ ซึ่งสามารถติดต่อได้ที่หน้าอุทยานฯ หรือจองล่วงหน้าผ่านกลุ่มในเฟซบุ๊ก ไกด์หนึ่งคนจะดูแลนักท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 5 คน ค่าบริการแล้วแต่จะตกลงกัน แต่โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 500 บาทต่อกลุ่ม
ภาพจาก สำนักอุทยานแห่งชาติ
สำหรับการเดินทางปีนป่ายขึ้นถ้ำนาคาในจังหวัดบึงกาฬ แนะนำให้เตรียมพาวเวอร์แบงค์สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างเดินทาง เพราะจะได้เก็บภาพและติดต่อสื่อสารได้ตลอดเส้นทาง
ขอแนะนำ:Powerbank 30000 mah แท้ fast charge พาวเวอร์แบงค์ 100% LCD With Flash Light USB แบตสํารอง ชาร์จเร็ว พาเวอร์แบงค์ ของแท้ ลดราคาพิเศษเหลือ 168 บาทดูเพิ่มเติม คลิกที่นี่: https://s.shopee.co.th/8UxH1oewSb
เส้นทางเดินป่าสุดท้าทายสู่ใจกลางถ้ำนาคา
เส้นทางเดินขึ้น ถ้ำนาคา มีระยะทางไป-กลับประมาณ 2 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทั้งหมดราว 4-6 ชั่วโมง เพราะเส้นทางส่วนใหญ่เป็นบันไดสูงชันสลับกับทางดินที่ต้องใช้ความระมัดระวัง ตลอดเส้นทางจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ โดยเฉพาะช่วงแรกที่เป็นบันไดสูงชันอาจทำให้หลายคนท้อใจ แต่ถ้าผ่านไปได้รับรองว่าคุ้มค่ากับความพยายาม
ระหว่างทางเราจะได้พบกับจุดที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ประตูเต่า, หินหัวเรือ และ หินเศียรพญานาคเศียรที่ 3 เมื่อขึ้นไปถึงด้านบน จะได้พบกับไฮไลท์สำคัญคือ หินเศียรพญานาคเศียรที่ 1 ที่มีลักษณะเหมือนหัวงูขนาดใหญ่จริงๆ นอกจากนี้ยังมี ถ้ำหลวงปู่วัง และ เจดีย์หลวงปู่วัง ให้ได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย
ข้อควรรู้และข้อปฏิบัติในการเที่ยวชม
เพื่อเป็นการเคารพสถานที่และรักษาธรรมชาติอันสวยงามของ ถ้ำนาคา ให้นักท่องเที่ยวรุ่นหลังได้ชื่นชมต่อไป มีข้อควรปฏิบัติที่สำคัญดังนี้:
- ห้ามสัมผัสหรือทำลายหินและประติมากรรมต่างๆ ภายในถ้ำ
- ห้ามนำอาหารเข้าไปรับประทานและห้ามทิ้งขยะโดยเด็ดขาด
- ห้ามส่งเสียงดังหรือกระทำการใดๆ ที่เป็นการรบกวนความสงบ
- ห้ามตั้งแคมป์พักแรมในบริเวณถ้ำ
- ควรแต่งกายให้สุภาพรัดกุมและสวมรองเท้าที่เหมาะสมกับการเดินป่า
การมาเยือน ถ้ำนาคา ไม่ใช่เป็นเพียงการท่องเที่ยวตามกระแส แต่เป็นการเดินทางที่ต้องใช้ทั้งพลังกายและพลังใจ เมื่อได้มายืนอยู่ท่ามกลางความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและได้สัมผัสกับเรื่องราวความเชื่อความศรัทธาด้วยตัวเองแล้ว รับรองว่าจะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ประทับใจและไม่มีวันลืมเลือนอย่างแน่นอน
เติมพลังหลังลงเขา: ร้านอาหารและคาเฟ่ห้ามพลาดในบึงกาฬ
หลังจากเหนื่อยล้าจากการเดินขึ้น ถ้ำนาคา กันมาทั้งวัน ก็ถึงเวลาของการเติมพลังด้วยของอร่อยๆ เรามีร้านอาหารและคาเฟ่บรรยากาศดีในจังหวัดบึงกาฬมาแนะนำกัน
ร้านอาหาร:
- ครัวเสวย: ร้านอาหารไทยริมแม่น้ำโขง บรรยากาศดี มีเมนูให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะเมนูปลาจากแม่น้ำโขงที่สดใหม่
- Riverside Restaurant & Bar Bungkan: ร้านอาหารนานาชาติบรรยากาศดีอีกแห่งที่ตั้งอยู่ริมโขง เหมาะสำหรับการนั่งชิลล์ชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน
- ร้านอาหารแม่น้ำ: โดดเด่นด้วยเมนูปลาแม่น้ำและอาหารทะเลสดใหม่ที่ส่งตรงมาจากชลบุรี รับประกันความอร่อย
ภาพจาก Facebook page: Riverside Restaurant & Bar Bungkan
คาเฟ่:
- Roo Seuk Dee cafe & studio (รู้สึกดี คาเฟ่): คาเฟ่บรรยากาศอบอุ่นน่านั่งในตัวเมืองบึงกาฬ มีเครื่องดื่มและเบเกอรี่ให้เลือกหลากหลาย
- กว้างคูณยาว คาเฟ่: คาเฟ่และรีสอร์ทที่บรรยากาศดี มีมุมถ่ายรูปสวยๆ และที่นั่งให้เลือกหลายโซน
- The Sapparose Cafe': คาเฟ่สวยงามที่ตกแต่งด้วยดอกไม้ ให้ความรู้สึกสดชื่น เหมาะแก่การแวะพักผ่อนจิบกาแฟ
แนะนำที่พัก: Pakamas Resort

Pakamas Resort ตั้งอยู่ในจังหวัดบึงกาฬ ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างถ้ำนาคา ที่พักให้บรรยากาศสงบ เหมาะสำหรับพักผ่อนหลังจากการเดินทางและการผจญภัยในเส้นทางธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติภูลังกา ห้องพักสะอาด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีบริการที่อบอุ่นจากทีมงานของรีสอร์ท
ดูข้อมูลที่พักได้ที่: https://www.agoda.com/partners/partnersearch.aspx?hid=37872510&cid=1837538